โฆษกฯ เผยไม่พบกลุ่ม IS เข้ามาเคลื่อนไหวในไทย ยันงานแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นการข่าวปกติ

ข่าวการเมือง Friday December 4, 2015 16:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีที่มีการนำเอกสารของตำรวจสันติบาลให้ติดตามพฤติการณ์ของชาวต่างชาติในประเทศไทย ตามข้อมูลจากหน่วยต่อต้านข่าวกรองรัสเซียมาเผยแพร่ในสื่อมวลชนว่า รัฐบาลได้มีการตรวจสอบแล้วในเบื้องต้น จนถึงขณะนี้ไม่พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยตามข่าวเข้ามาทำการเคลื่อนไหวในประเทศไทย

สำหรับข้อมูลดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวที่ประเทศไทยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดร่วมกับทุกประเทศ เพื่อเฝ้าติดตามกลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัยที่ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกเรื่อง ทั้งกรณียาเสพติด การก่อความไม่สงบ และอาชญากรรมต่างๆ และถือเป็นข้อมูลลับทางราชการที่ไม่ควรนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะอาจกระทบการทำงานของเจ้าหน้าที่

"การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย และความมั่นคงของต่างประเทศ เป็นสิ่งที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกระยะ มีข้อมูลที่เราส่งให้มิตรประเทศช่วยตรวจสอบ หรือมิตรประเทศร้องขอให้เราตรวจสอบตลอดเวลา ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่หรือเป็นสิ่งที่ต้องวิตกกังวลเกินกว่าเหตุ ในทางตรงกันข้ามหากเราไม่ได้รับความร่วมมือด้านข้อมูลต่างหากจึงจะน่ากังวล" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลความมั่นคง การดูแลความสงบเรียบร้อยในประเทศ และการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นลำดับแรก และกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความสงบเรียบร้อยในประเทศเตรียมพร้อมเสมอ และให้เพิ่มความเคร่งครัดเป็นพิเศษในช่วงเทศกาล เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยทุกคน

พร้อมระบุว่า ขอให้สื่อมวลชนได้ใช้วิจารณญาณพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเผยแพร่ข้อมูลใดๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่จะสร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน และข้อมูลดังกล่าวยังอาจเกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงในกรณีดังกล่าว ทั้งในส่วนการปล่อยปละให้เอกสารสำคัญทางราชการเผยแพร่ออกมา รวมทั้งการทำงานของสื่อมวลชนบางสังกัดที่นำเสนอข่าวโดยละเลยต่อผลกระทบในวงกว้างที่จะเกิดขึ้นกับสังคม โดยในประเด็นหลังนี้ อาจจำเป็นต้องให้หน่วยงานที่ดูแลเชิญสื่อมวลชนดังกล่าวมาทำความเข้าใจและขอความร่วมมือเรื่องแนวทางการทำงานต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ