โดยนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน และสีหน้าหงุดหงิด ว่า "เห็นแล้ว ทุเรศ พวกคนเลวมันทำ อย่าไปขยายให้มันซิ"จากนั้นได้เดินขึ้นไปประชุม ครม.ทันที
ด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า ยังคงมั่นใจคณะกรรมการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ที่ดำเนินการเมื่อปีที่ผ่านมาสามารถชี้แจงได้ และมั่นใจในความสุจริต ซึ่งขอให้รอผลสอบจากคณะกรรมการชุดต่างๆ
ส่วนประเด็นเรื่องของโรงหล่อว่าเป็นการดำเนินการของทางเอกชนไม่ได้เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการจัดสร้างฯ แต่เมื่อมีเรื่องที่อาจจะไม่เหมาะสมทางคณะกรรรมจัดสร้างจึงเข้าไปพูดคุยให้เกิดความชัดเจน
"มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมอยากพูด คือประเด็นเรื่องโรงหล่อ ผมอยากจะบอกว่าไม่เคยรองรับคำที่ใช้กันในเรื่องนั้น เพราะเป็นเรื่องของเอกชนที่ดำเนินการกัน และเมื่อคณะกรรมการจัดสร้างฯได้ทำข้อตกลงกับโรงหล่อแล้วก็เป็นไปตามนั้น ส่วนเรื่องที่โรงหล่อจะไปคุยกับภาคเอกชนอื่น ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินงานที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเราตกลงกันแล้ว แต่เมื่อเราทราบว่ามีการดำเนินการที่อาจจะไม่เหมาะสม ทางคณะกรรมการฯก็เข้าไปพูดคุยให้เกิดในลักษณะที่เป็นบุญกุศล อันนี้เป็นประเด็นหลักที่อาจไม่เข้าใจและทำให้ถูกมองไปในทางไม่สุจริต แต่ยืนยันทุกอยากดำเนินการในทางที่สุจริต และน่าจะเป็นเรื่องที่คณะกรรมการก่อสร้างน่าจะได้รับคำชมเชยเสียด้วยซ้ำ เพราะเป็นเรื่องที่เอกชนไปตกลงกันเอง และอาจไม่เหมาะสม คณะกรรมการฯจึงเข้าไปดูแลนอกหน้าที่ให้เกิดความเหมาะสม"พล.อ.อุดมเดชกล่าว
ส่วนกรณีเมื่อพบการกระทำที่อาจไม่เหมาะสมระหว่างโรงหล่อกับเซียนพระ ทำไมทางทหารไม่เข้าไปดำเนินการ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของทางทหาร เมื่อคณะกรรมการตกลงในรายละเอียดแล้วคงจะไปหาคำปรึกษาจากที่ใดก็เป็นเรื่องระหว่างเอกชน ซึ่งตนเองยืนยันตั้งแต่แรกว่า มีข้อเท็จจริงอยู่ส่วนหนึ่ง คือโรงหล่อกับเอกชนเป็นความสมัครใจที่เขาคุยกันเอง เมื่อมีอะไรที่อาจไม่เหมาะสมเราก็เข้าไปช่วยดูแล เมื่อทุกคนเข้าใจก็กลายเป็นสิ่งที่เกิดความศรัทธา เป็นเรื่องของบุญกุศล
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อุดมเดช ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นถึงแรงกดดันที่ยังเรียกร้องขอให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่ยอมรับว่ากระแสกดดันที่เข้ามาก็อาจจะทำให้คิดไปบ้าง
"ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าคณะกรรมการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์สามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว และเชื่อว่าประชาชนที่บริจาคเงินเข้ามาก็มีความมั่นใจในการจัดสร้างว่าเงินที่บริจาคมาได้นำไปใช้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งก็ทำให้เห็นไปแล้ว และที่ตามมาภายหลังคณะกรรมการที่รับช่วงต่อก็จะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้อยากให้ลองคิดดู ถ้าหลังจากผมปลดเกษียณราชการแล้วไม่สามารถเปิดอุทยานราชภักดิ์ได้ กระแสจะโถมทับเข้ามา ดังนั้นในช่วงที่ผมดำเนินการอยู่จึงพยายามทำอย่างเต็มที่ คนที่บริจาคเขาก็จะสบายใจ"พล.อ.อุดมเดช กล่าว