ส่วนการโยกย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ไปปฏิบัติหน้าที่ยังศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) เนื่องจากเห็นว่า พล.ต.ต.ปวีณ มีความสามารถด้านการสืบสวนสอบสวน และเพื่อให้การทำคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาเกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ แต่หาก พล.ต.ต.ปวีณ ไม่สะดวกใจในการปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัยก็พร้อมปรับเปลี่ยนให้ไปปฎิบัติหน้าที่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 และภาค 9 หรือจะมาปฎิบัติหน้าที่ยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางก็ได้ ซึ่ง พล.ต.ต.ปวีณ ก็เลือกขอปฎิบัติหน้าที่ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่ พล.ต.ต.ปวีณ กลับยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการก่อน จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้
"การโยกย้ายดังกล่าวไม่มีการกลั่นแกล้งอย่างแน่นอน เป็นการโยกย้ายตามความเหมาะสม พร้อมยืนยัน ขณะนี้ภายในองค์กรไม่ได้มีความขัดแย้งภายใน ส่วนสำนวนคดีค้ามนุษย์นั้นอยู่ในกระบวนการของศาลแล้ว การตัดสินใจลาออกของ พล.ต.ต.ปวีณ จึงไม่มีผลกระทบต่อรูปคดี" ผบ.ตร.กล่าว