นายกฯ ต้อนรับ"ฮุน เซน"กระชับความสัมพันธ์ 2 ประเทศแน่นแฟ้นมากขึ้น

ข่าวการเมือง Friday December 18, 2015 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการและร่วมหารือข้อราชการเต็มคณะว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาที่ครบ 65 ปี บนพื้นฐานของการพึ่งพาและผลประโยชน์ร่วมกัน และพร้อมที่จะยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนต่อไป และขอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอบคุณการต้อนรับอันอบอุ่นและกล่าวแสดงความซาบซึ้งและพร้อมถวายการต้อนรับและเข้าเฝ้าฯด้วยตนเอง ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า เพื่อทรงเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างสถาบันเทคโนโลยีพระราชทานที่จังหวัดกัมปงสปือและเยี่ยมชมโครงการพระราชทานของพระองค์ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและวิชาการพระราชทานความช่วยเหลือในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ของกัมพูชาตลอดระยะเวลาผ่านมา

ด้านความสัมพันธ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 65 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกัมพูชา รวมถึงภาคประชาชนจะร่วมกันจัดกิจกรรมและการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยจะมอบหมายให้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้แทนพิเศษนายกรัฐมนตรีร่วมงาม โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้มีถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลนัดดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อร่วมเป็นสัญลักษณ์ความผูกพันระหว่างประชาชนของสองประเทศร่วมกันด้วย

ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาเห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายขยายปริมาณมูลค่าการค้าและการลงทุนของสองประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ในช่วง5 ปีข้าหน้า ซึ่งปัจจุบันทั้งสองประเทศมีมูลค่าการค้ารวมประมาณ 5,000 ล้านดอลล่าสหรัฐ โดยจะเชื่อมโยงกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ จ.สระแก้ว- จ.บันเตียเมียนเจย การอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและการเพิ่มปริมาณการเดินรถ การเชื่อมโยงทางบกและเส้นทางรถไฟ เพื่อมีส่วนผลักดันให้ปริมาณการค้าสินค้าของสองประเทศเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนของทั้งสองฝ่าย แสวงหาลู่ทางลงทุนเพิ่มในแต่ละประเทศด้วย

ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญชวนกัมพูชาส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคร่วมกัน ในลักษณะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน ในลักษณะ package tour และ long stay เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของภูมิภาค ซึ่งในขณะนี้ ไทยยังได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและชายฝั่งระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ทั้งท่าเรือ และท่าเรือสำราญ เพื่อรองรับการเติบโตการท่องเที่ยวทางทะเลที่เพิ่มขึ้น

ด้านพลังงาน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวขอบคุณไทยที่ให้ไฟฟ้าให้กับกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระไฟฟ้ายังเข้าไปไม่ถึง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็ขอให้กัมพูชาพิจารณาแบ่งปันทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของทั้งสองประเทศ

ด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรียินดีที่จะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานและข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานไทย – กัมพูชา ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เนื่องจากบันทึกความเข้าใจและข้อตกลงทั้งสองฉบับนี้ จะช่วยยกระดับความร่วมมือที่ไทยกับกัมพูชามีต่อกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่าง ไทยและกัมพูชายืนยันที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและต่อต้านกระบวนการค้ามนุษย์ โดยจะเร่งรัดการขึ้นทะเบียนแรงงานถูกกฎหมาย เพื่อให้แรงงานกัมพูชาได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยโดยสมบูรณ์

ความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนและพหุภาคี นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชายินดีที่ไทยและกัมพูชากำลังจะมุ่งหน้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้ไทยได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว และหวังว่า ภายหลังจากเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนไทยกับกัมพูชาจะมีความร่วมมือร่วมกันมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการเชื่อมโยง ต่อไป ทั้งนี้ ความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยและกัมพูชาจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ประชาคมอาเซียน

ด้านการเกษตร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร รวมทั้งการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค้าและเชื่อมโยงกับตลาดสินค้า ขณะเดียวกัน ก็เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสินค้าเกษตรที่ยังมีปัญหาระหว่างกัน

ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ นายกรัฐมนตรีได้เสนอที่จะฝึกอบรมบุลากรด้านสาธารณสุขแก่กัมพูชา พร้อมจะศึกษาการจัดสรรทุนแพทย์แก่กัมพูชา เพื่อประโยชน์ในด้านการแพทย์และสาธารณสุข

สำหรับในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาปัจจุบันนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดียิ่งตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน เพิ่มการค้าและการลงทุน รวมทั้งการพัฒนาในมิติต่างๆ ภายใต้แนวคิดและนโยบาย Thailand + 1 เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในภูมิภาคเพิ่มขึ้น โดยอาเซียนกำลังจะกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 600 ล้าน โดยไทยจะร่วมมือกับกัมพูชาในลักษณะเกื้อกูลส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับไทย กัมพูชา และประชาคมอาเซียนร่วมกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ