สำหรับการประชุม ครม.วันนี้ มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง จะเสนอที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) อีก 5 หมื่นล้านบาท จากก่อนหน้านี้ได้ให้สินเชื่อตามโครงการดังกล่าวไปแล้ว 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อผ่านไปยังธนาคารพาณิชย์ และให้ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้พิจารณาปล่อยกู้ให้ SMEs อีกที ซึ่งจะคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 4% ต่อปี
พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. ...) ซึ่งกองทุนดังกล่าวนี้มีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) มีให้ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณาแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ(National e-Payment Master Plan) ด้วยการวางระบบชำระเงินในประเทศให้เป็นระบบเดียวกัน เพื่อให้นำบัตรประชาชน บัตรเครดิต บัตรเดบิต การเติมเงินในระบบมือถือใช้ในการชำระสินค้า เพื่อลดการใช้เงินสดเหมือนกับต่างประเทศ และจากนี้ไปเมื่อธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์กว่า 2 ล้านร้านค้าต้องมีเครื่องรับชำระเงิน
กระทรวงการคลัง ยังได้เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ตามข้อเสนอของธนาคารออมสิน
กระทรวงเทคโลโนยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) จะขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.ถึงแผนงาน/โครงการและงบประมาณในการดำเนินการ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล รวมทั้งรายงานผลการจัดประมูล 4G คลื่นความถี่ 900 MHz ที่สำนักงาน กสทช.ได้จัดประมูลเสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้เม็ดเงินจากการประมูลรวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะเตรียมนำเงินดังกล่าวมาใช้จ่ายในโครงการสำคัญๆ และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
กระทรวงพาณิชย์ จะเสนอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการขยายระยะเวลาโครงการนำร่องระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของอาเซียน โครงการที่ 1
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอที่ประชุม ครม.เพื่อขอพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการชดเชยให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง
กระทรวงมหาดไทย เสนอของขวัญปีใหม่ ภายใต้แนวคิด "มหาดไทยบำบัดทุกข์ สร้างสุข ทั่วไทย" จำนวน 17 โครงการ โดยส่วนใหญ่จะเน้นการให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่
กระทรวงคมนาคม จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อขอผ่อนผันยกเว้นมติ ครม.เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.30, วันที่ 23 ก.ค.34, วันที่ 22 ส.ค.43 และวันที่ 17 ต.ค.43 เพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าชายเลน (สำหรับดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล
กระทรวงศึกษาธิการ ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการและเพิ่มวงเงินรายการผูกพันข้ามปี พ.ศ.2557-2558 (วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล 2 และวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี)
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะเสนอทิศทางและกรอบยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) จะขอยกเว้นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในการนำเงินนอกงบประมาณไปใช้ในการบรรจุแต่ตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานในหน่วยงาน
สำนักงานสถิติแห่งชาติ จะเสนอวาระเกี่ยวกับผลสำรวจความนิยม 2 ผลสำรวจ โดยผลการสำรวจแรก เป็นการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล พ.ศ.2558 และอีกชิ้นเป็นผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล เพื่อเสนอให้ครม.รับทราบ