นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดูแลและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศว่า ถึงแม้รัฐบาลได้เร่งทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่อาจไม่ทันกับความต้องการของประชาชน แต่รัฐบาลก็ได้พยายามแก้ปัญหาตั้งแต่เศรษฐกิจฐานราก เพราะไทยเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ติดกับดักรายได้ประเทศปานกลาง และกับดักประชาธิปไตย และติดกับดักตัวเองเป็นปัญหาการพัฒนาประเทศทั้งสิ้น
พร้อมระบุว่า รัฐบาลนี้ทำได้เพียงเริ่มต้นวางรากฐานไว้ แต่คงไม่สามารถจะพูดและรับปากได้ว่าทุกอย่างจะแก้ไขได้ในปีเดียวหรือ 2-3 ปี เพราะบางเรื่องอาจต้องใช้เวลานาน ซึ่งอดีตที่ผ่านมามีทั้งดีและไม่ดี เรื่องที่ดีก็เก็บไว้เพื่อความภาคภูมิใจ เป็นพลังใจในการต่อสู้ ส่วนเรื่องที่ไม่ดีก็จำไว้เป็นบทเรียน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องของการพัฒนาสินค้าโอทอปจะต้องคัดเลือกสินค้าที่มีศักยภาพและมีคุณภาพ และมีการพัฒนาไม่ใช่อาศัยภูมิปัญญาอย่างเดียว ซึ่งการสร้างสินค้าต้องเชื่อมโยงกับชุมชน รวมกลุ่มในระดับจังหวัดพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลาย เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และจะต้องร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกับอาเซียน เพื่อมีอำนาจต่อรองกับประชาคมอื่นๆ
"วันนี้ต้องนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทั้งสองพระองค์ทรงเริ่มต้นไว้มาส่งเสริมสืบทอดต่อไป วันนี้รัฐบาลเดินหน้าทุกอย่างตามแนวทางประชารัฐ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน แต่ขอร้องอย่าเร่ง อย่าใจร้อน ซึ่งผมจะทำให้ทุกอย่าง" นายกรัฐมนตรี กล่าว