นายกฯสั่งทุกกระทรวงโฟกัส 4 งานหลัก จี้ตั้งโฆษกกระทรวงชี้แจงข้อมูล

ข่าวการเมือง Tuesday January 5, 2016 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้แผนการดำเนินงานของทุกกระทรวงและทุกกลุ่มงานในปี 2559 ต้องประกอบด้วย 4 เรื่องหลักที่หยิบยกขึ้นมาเป็นตัวตั้ง คือ 1.การบริหารราชการปกติ หรืองาน function 2.เรื่องที่ต้องมีการปฏิรูป ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปแล้วเสร็จภายในรัฐบาลปัจจุบัน หรือเรื่องที่ดำเนินงานบางส่วนแล้วส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไป หรือเรื่องที่เป็นเพียงการวางพื้นฐานแล้วส่งให้รัฐบาลชุดต่อไปดำเนินการต่อ 3.การแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย, ปัญหามาตรฐานความปลอดภัยการบินพลเรือน และ 4.การขับเคลื่อนกิจกรรมสำคัญ เช่น งานคลัสเตอร์, อุตสาหกรรม 5 กลุ่มเก่า และ 5 กลุ่มใหม่, การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การบริหารจัดการงาน และการทวงคืนผืนป่า
"4 เรื่องสำคัญนี้ ต้องเป็นเรื่องหลักที่จะดำเนินการในปี 59 ไปพร้อมๆ กัน ทั้งบริหารราชการปกติ, งานปฏิรูป, งานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของชาติ และขับเคลื่อนกิจกรรมสำคัญ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

พร้อมระบุว่า ในแผนการดำเนินงานสำหรับปี 59 นี้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง จะต้องหยิบ 4 เรื่องหลักดังกล่าวนี้มาลงรายละเอียดว่าแต่ละเรื่องนั้นนายกรัฐมนตรีได้วางแนวนโยบายไว้อย่างไร และการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติต้องทำอย่างไร มีการกำหนดกิจกรรมหลัก กิจกรรมรอง และกิจกรรมเสริม โดยต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งเรื่องภายในและเรื่องต่างประเทศ รวมทั้งต้องให้น้ำหนักกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสำคัญมากก่อน ขณะเดียวกันจะต้องมีผลสัมฤทธิ์เกิดขึ้นในเวลาที่ชัดเจน โดยมีดัชนีชี้วัดการดำเนินงานว่าภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้นั้นเกิดความสำเร็จของการปฏิบัติงานมากน้อยเพียงใดด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีต้องการเห็นทุกหน่วยงานทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น ซึ่งแต่ละกระทรวงจะต้องนำเสนอโฆษกกระทรวงคนใหม่ รวมถึงโฆษกของกลุ่มงาน(คลัสเตอร์) ซึ่งต้องเป็นบุคคลที่มีศักยภาพ และมีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานด้านนี้ และต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้ากระทรวง เพื่อนำมาเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบต่อไป

"โฆษกกระทรวงต้องมีตัวตนชัดเจน เปิดเผยกับสื่อมวลชนได้ทราบ เวลามีข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับกระทรวงนั้น สื่อมวลชนจะได้มีตัวเลือกมากขึ้นในการสอบถามข้อมูล ไม่ใช่ถามแต่นายกฯ หรือรัฐมนตรีอย่างเดียว จะได้ยกหูหาโฆษกกระทรวงได้ และท่านอธิบดี และปลัดกระทรวงจะต้องลงมาชี้แจงด้วย" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รองนายกรัฐมนตรีแต่ละด้านได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเรื่องสำคัญๆ ที่ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติ ซึ่งในส่วนของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานว่า ช่วงที่ผ่านมางานด้านความมั่นคงได้เน้นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก โดยใช้มาตรการระวังป้องกัน ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง โดยมีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม

ด้านพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในเรื่องการท่องเที่ยวว่าในปี 59 นี้ จะเห็นว่าการท่องเที่ยวจะเป็นหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งล่าสุดในปี 58 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 29.88 ล้านคน ดังนั้นในปีนี้นอกจากจะต้องรักษาจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ให้ได้แล้ว ยังต้องเพิ่มคุณภาพของนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้น ผ่านจำนวนการใช้จ่ายต่อหัวสูงขึ้นด้วย

ส่วนพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 59 นี้จะเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น ตั้งแต่วัยเด็ก วัยเริ่มการศึกษา วัยอาชีวะ จนถึงวัยทำงาน ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มีจุดประสงค์แค่การผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานเท่านั้น แต่ต้องเร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาเป็นแม่แบบในการสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ โดยให้ความสำคัญกับบุคลากรครูมากขึ้น เพื่อให้ใน 5-10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยมีต้นแบบที่จะสร้างเยาวชนและบุคลากรที่มีคุณภาพของชาติได้

ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงถึงเรื่องสถานการณ์พลังงานที่ปัจจุบันยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างบุคคลบางกลุ่ม จึงทำให้การเดินหน้าสำรวจผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ยังมีปัญหาไม่ราบรื่นนัก ดังนั้นจึงเห็นว่าวันนี้จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันโดยเฉพาะกลุ่มที่เห็นต่าง ให้ยอมรับข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งฝ่ายของกรรมาธิการ NGOs กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเมื่อแต่ละฝ่ายมีเหตุผลรองรับก็เชื่อมั่นว่าจะเปลี่ยนแนวคิดและมุมมอง อันจะทำให้การสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ขณะที่เรื่องการสื่อสารโทรคมนาคมนั้น ในปีนี้เครือข่ายสัญญาณการสื่อสารต่างๆ ถือว่ามีความครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ในประเทศไทยแล้ว เพียงแต่ความเร็วของสัญญาณอาจยังน้อย ดังนั้นในปีนี้จะต้องเร่งรัดเรื่องความเร็วของสัญญาณเพื่อให้พื้นที่ที่ทุรกันดาร หรือพื้นที่ชายขอบของประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลและระบบการสื่อสารได้ดีมากยิ่งขึ้น

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จะดูแลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่ควรจะเป็น และเหมาะสมกับปัจจัยทั้งภายในและต่างประเทศ ส่วนการเดินหน้าขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจนั้น ทีมเศรษฐกิจได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อจูงใจให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ตลอดจนมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และหน่วยงานราชการ ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้อาจจะไม่สดใสเหมือนที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่เชื่อมั่นว่าด้วยวิธีการวางพื้นฐานโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยให้ประเทศไทยผ่านปัญหาเศรษฐกิจไปได้ โดยรัฐบาลจะเน้นการเติบโตจากภายในเป็นสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ