นายกฯเรียกร้องความร่วมมือ-ปรองดองจากทุกฝ่ายมุ่งแก้ปัญหาประเทศ

ข่าวการเมือง Saturday January 16, 2016 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความ
สุขให้คนในชาติ จากใจนายกรัฐมนตรี" โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน และทำความเข้าใจปัญหา รวมถึงสร้างความปรองดองกัน
เพื่อร่วมแก้ปัญหาและสร้างอนาคตของประเทศ พร้อมกับการพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้นด้วย
"วันนี้อยากจะกล่าวอะไรจากใจของนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบด้วย
อยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์บ้านเมือง อยากให้พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านเข้าใจในเรื่องต่อไปนี้ เรื่องสำคัญคือ
เรื่องรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่จะต้องมีการลงมติ การทำประชามติจะผ่านหรือไม่ผ่าน จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกระบวนการ
ยุติธรรมหรือว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข มีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือเปล่า เพราะเป็นเรื่องอนาคต แต่วันนี้เราจะร่วมกันสร้าง
อนาคตเหล่านั้นได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำความรู้ความเข้าใจกันทุกคน ให้ไปหนทางเดียวกัน"นายก
รัฐมนตรี กล่าว
พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าประชาชน นักการเมือง ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ เอกชน ข้าราชการ องค์กรพัฒนาเอกชน
(NGO)หรือนักสิทธิมนุษยชนต่างๆ หลายกลุ่มหลายฝ่ายด้วยกันทุกคนต้องรับรู้ปัญหาของประเทศว่าทุกปัญหามีความเชื่อมโยงกันหมด แก้
อย่างหนึ่งไปโยงอีกอย่างหนึ่ง และอีกหลายอย่างด้วยหลายเรื่องกฎหมายไม่ทันสมัย กฎหมายก็ยังไม่มี เหล่านี้ทำให้การแก้ปัญหาช้ามาก
ปัญหาของความเหลื่อมล้ำในการดำรงชีพ อาชีพรายได้การเกษตร พืชเชิงเดี่ยว การส่งออกลดลง ต้นทุนการผลิตสูง อาจ
จะเป็นสาเหตุการใช้จ่ายของงบประมาณที่ผ่านมามีปัญหา ทำให้ไม่สามารถนำงบประมาณไปพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ อย่างเพียงพอ
เช่น การลงทุน การสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นต้น ขณะที่การบริหารราชการแผ่นดิน ต้องมีธรรมาภิบาลเพื่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ
จากประชาชน นอกจากนี้ทุกฝ่ายยังต้องร่วมกันพัฒนาตนเอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของตนเองให้มากขึ้น
รวมถึงต้องมีการสร้างความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องต่อไปคือ การที่รัฐบาลต้องมีธรรมาภิบาล ต้องดูแล
ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมให้มีอนาคตทั่วถึงเป็นธรรมลดช่องว่าง โดยรัฐบาลที่เป็นธรรมาภิบาลจะต้องคำนึงถึงเสียงส่วนใหญ่ ถูก
ต้อง แต่จะต้องดูแลคนส่วนน้อยให้ได้ด้วย ไม่ใช่ดูแลเฉพาะที่เป็นฐานการเมือง ต้องดูแลประชาชนทุกระดับให้ทั่วถึง ทั้งรายได้สูง
กลาง น้อยอย่างเท่าเทียม มากน้อยตามความจำเป็น ตลอดจนต้องมีการพัฒนาการศึกษาควบคู่กันไปด้วย
"วันนี้รัฐบาลวางพื้นฐานตาม Road Map ของเราทั้งบน กลางล่าง ประชารัฐให้ตรงกับความต้องการของประชาชน ใน
พื้นที่ ตรงกับปัญหามีความเชื่อมโยงทั้งห่วงโซ่เศรษฐกิจ ห่วงโซ่มูลค่าโดยให้เกิดความเข้มแข็งจากภายในชุมชนไปสู่จังหวัด ภูมิภาค ผม
ต้องการให้ 4 ภูมิภาคนี้แข็งแรง วันนี้เรามีภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยทั้งหมดจะแข็ง
แรงเป็นภูมิภาคได้อย่างไร และแลกเปลี่ยนค้าขายและเชื่อมโยงอย่างไร อันไหนทำผลิต อันไหนทำแปรรูป จะส่งออกอะไรก็แล้วแต่
สร้างห่วงโซ่มูลค่าให้ได้ ด้วยการสร้างนวัตกรรม เพราะฉะนั้นถ้าทำให้ภูมิภาคทั้งหมดนั้นเข้มแข็งในตัวของตัวเอง วันข้างหน้าไปสู่การ
มีรายได้ที่เก็บภาษีใกล้เคียงกัน ไม่อย่างนั้นไม่เท่ากันก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอให้ช่วยกันถ้าไม่เข้มแข็งมีเกษตรอย่างเดียว ไม่มี
เกษตรอุตสาหกรรมเลย ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และรายได้จะมาจากไหน รอผลผลิตออกมาทั้งปี 4
เดือน 6 เดือนออกที ต้องเป็นหนี้เพราะระหว่างนั้นใช้เงินอะไร เพราะฉะนั้นต้องมีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นบ้าง"พลเอกประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจ เรื่องยางก็กำลังเร่งแก้ปัญหากันอยู่แต่อาจจะมีความล่าช้าบ้าง
ขณะที่การปรองดองสมานฉันท์ต้องเกิดจากใจของทุกฝ่าย ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องไปปรับปรุงตัวเองเพื่อร่วมกันให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
"ช่วยตัดสินใจหน่อย ที่ผมเข้ามาตัดสินใจถูกหรือผิด และจะสำเร็จหรือเปล่า จะเสียของหรือเปล่า ไม่ใช่คนเดียว ทุกคน
ต้องช่วยกัน จะให้ทำเป็นง่ายไหม แบบง่ายก็รอเวลาการเลือกตั้ง ไม่ต้องทำไรทั้งสิ้น ประท้วงกันไป เอาเงินกันไป หมดเงิน ก็โดน
ด่าตามหลังทุกที ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพื่ออนาคตประเทศชาติ ด้วยความห่วงใย และด้วยความตั้งใจ ขอให้ดูแลคณะ
รัฐมนตรีด้วย อยากจะพูดเล่น ๆ ให้สบายใจ หาว่าเครียด ถ้ามีปัญหามาก รัฐมนตรีมีปัญหามาก ไม่อยากปลดใครออก จะเสนอตั้ง
รัฐมนตรีพร้อมกับเป็นรองรัฐมนตรีด้วยทั้งหมดเลยได้ไหม เพราะทำงานหนักไง ใจผมเป็นขนาดนั้น แต่ทำไม่ได้อยู่แล้ว...ทุกอย่างแก้
ปัญหาด้วยคนทุกคน ด้วยใจ ด้วยความร่วมมือ ด้วยจิตสำนึก เลิกเถอะ สร้างปัญหากันสู้รบ ไม่เกิดประโยชน์ ก็เอาตายอยู่อย่างนี้
กฎหมายตัดสินมาว่าอย่างไร ว่าตามนั้น"นายกรัฐมนตรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ