โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,198 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ พบว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานกรรมการและมีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ผลสำรวจในประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน มีดังนี้ ร้อยละ 86.2 เห็นด้วยกับประเด็น “กกต. สามารถแจกใบแดงระงับสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.ก่อนการเลือกตั้งได้หากพบว่ามีการทุจริต"
ร้อยละ 79.9 เห็นด้วยกับประเด็น “พรรคการเมืองจะต้องเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีให้ประชะชาชนทราบล่วงหน้า ก่อนมีการเลือกตั้ง โดยอาจจะเป็น ส.ส. หรือคนนอกก็ได้" ร้อยละ 77.6 เห็นด้วยกับประเด็น “การให้อำนาจองค์กรอิสระ 3 องค์กร ได้แก่ กกต. / ป.ป.ช. / คตง. หารือร่วมกันเพื่อส่งข้อตักเตือนไปยังคณะรัฐมนตรี กรณีที่พบว่าการดำเนินงาน หรือนโยบายของรัฐบาล อาจจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศในระยะยาว" ร้อยละ 52.4 เห็นด้วยกับประเด็น “วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรวมแล้วต้องไม่เกิน 8 ปี โดยจะเป็นกี่สมัยก็ได้ "
เมื่อถามถึงความมั่นใจที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่เน้นเรื่อง “ขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองและการซื้อสิทธิ์ขายเสียง" ว่าจะสามารถบรรลุเจตนารมณ์ที่วางไว้ได้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.0 ระบุว่า “ไม่ค่อยมั่นใจ" ส่วนผู้ที่ระบุว่า “มั่นใจ" มีร้อยละ 24.0
ส่วนความมั่นใจที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าจะทำให้เกิดความสามัคคีปรองดองของคนในชาติได้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 74.6 ระบุว่า “ไม่ค่อยมั่นใจ" และมีเพียงร้อยละ 22.2 ที่ระบุว่า “มั่นใจ"
ด้านความตั้งใจออกมาใช้สิทธิ์ ลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนพบว่า ร้อยละ 86.8 ตั้งใจจะออกมาใช้สิทธิ์ มีเพียงร้อยละ 2.0 เท่านั้นที่ตั้งใจจะไม่ออกมาใช้สิทธิ์ ที่เหลือร้อยละ 11.2 ยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาใช้สิทธิ์หรือไม่