ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่า พ.ต.อ.ศิวพงษ์ มีความเชื่อมโยงกับ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ สารวัตรเอี๊ยด แต่จากการตรวจสอบไม่พบการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่การออกหมายจับ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ ในครั้งนี้นั้น มาจากการขยายผลตรวจค้นห้องพักภายในคอนโดลาเมซองของ พ.ต.ต.ปรากรม ซึ่งพบหลักฐานเป็นวิทยุสื่อสารโมบาย พร้อมเสาวิทยุ 5 ต้น รวมทั้งยังพบวิทยุสื่อสารแบบพกพาอีกกว่า 200 เครื่องอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว
เบื้องต้นจากการตรวจสอบวิทยุสื่อสารแบบพกพาพบว่า พ.ต.ต.ปรากรม เป็นผู้ขอเบิกวิทยุสื่อสารจำนวนดังกล่าวออกไปจากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 100 เครื่อง โดยอ้างว่าจะนำมาใช้ในงานราชการ ซึ่งมี พ.ต.อ.ศิวพงษ์ เป็นผู้นำมอบวิทยุดังกล่าวด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ศิวพงษ์ ได้สมัครใจลาออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.58 ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า หากการสืบสวนสอบสวนพบการกระทำผิดเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีการละเว้นอย่างแน่นอน