"นักท่องเที่ยวร้องเรียนว่า มีคนขับรถแท็กซี่เรียกเก็บเงินค่าโดยสาร 400 บาท ทั้งๆ ที่ระยะทางว่าจ้างไม่ถึง 1 กม. เมื่อผู้โดยสารไม่ยอมขึ้น ก็ส่งสัญญาณให้คันต่อๆ ไป ไม่รับผู้โดยสารด้วย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เอาเปรียบผู้อื่น ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศอย่างมาก ก่อนหน้านี้ คสช.ลงไปจัดระเบียบจนเกิดความเรียบร้อย และแท็กซี่ทุกคันมีมิเตอร์แจ้งราคา แต่ในระยะหลังเริ่มกลับมามีปัญหาเหมือนเช่นเดิมอีก" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ เร่งแก้ปัญหาให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยให้ดูแลครอบคลุมทั้งรถแท็กซี่ รถตู้ รถจักรยานยนต์รับจ้าง และผู้มีอิทธิพลที่เรียกเก็บค่าหัวคิว หากพบว่ามีการกระทำผิดขูดรีดเอาเปรียบประชาชนและนักท่องเที่ยวให้จับกุมดำเนินคดี รวมทั้งยึดรถหรือใบอนุญาตขับขี่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดให้ลงโทษอย่างหนักด้วยเช่นกัน
"รัฐบาลยอมไม่ได้กับพฤติกรรมที่ทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศในลักษณะนี้จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งนี้ มีหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหามานานแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยขอให้ใช้โอกาสนี้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยน้ำใจ และช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบการกระทำผิดหรือพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว