พ.ต.ท.พงษ์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยางพารามีราคาตกต่ำ แต่เหตุใดผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพารา คือ ยางรถยนต์ จึงมีราคาแพงมาก กรมการค้าภายในในฐานะเป็นเลขานุการของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ถือเป็นกลไก แต่ทำไมราคาน้ำยางจึงไม่กระเตื้องขึ้น
"อยากให้กระทรวงพาณิชย์ยกเลิกราคาควบคุมที่ประกาศเมื่อวันที่ 26 ม.ค.58 รวมทั้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้ามาตรวจสอบผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการส่งออกยาง ซึ่งหาข้อมูลได้ที่กรมศุลกากร เป็น 3 บริษัทค่ายใหญ่วันนี้ เขาได้กำไรมหาศาลกี่ 100%" พ.ต.ท.พงษ์ชัย กล่าว
พ.ต.ท.พงษ์ชัย กล่าวว่า การที่ราคายางพาราตกต่ำจะไปโทษเป็นเพราะ 5 เสือ หรือยางล้นตลาดประเทศจีนก็ไม่ใช่ ต้องไปแกะเส้นทาง 3 เจ้าใหญ่นี้ว่าไปร่วมกำหนดราคากลางของยางพาราจริงหรือไม่ กระทรวงพาณิชย์จะต้องมีบทบาท อย่าไปโทษกระทรวงเกษตรฯหรือกระทรวงอื่น ซึ่งถ้าทำได้ พรุ่งนี้มะรืนนี้ราคายางจะสูงขึ้นได้มากกว่า 45 บาท โดยที่รัฐบาลไม่ต้องนำเงินไปช่วยเหลือ พฤติกรรมเช่นนี้จะต้องเรียกมาคุยให้มันชัดเจน แล้วนำกำไรที่ได้มาเข้ากองทุนเพื่อช่วยชาวสวนยาง
ด้านนางอภิรดี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์มียางพาราเป็นส่วนผสมเพียง 18% ยางสังเคราะห์ 17% และอื่นๆ รวมทั้งค่าแรง ยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจตราและให้ความสำคัญกับราคายางรถยนต์ แต่ยางพาราเป็นเพียงแค่ส่วนผสมส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังหารือกับผู้ประกอบการยางรถยนต์ และเมื่อดูแนวโน้มคุยกันได้น่าจะลดราคายางรถยนต์ลงได้ ส่วนราคาตลาดโลกกำหนดโดยสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และยุโรป เพราะมีตลาดซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งไทยก็รู้ปัญหานี้ดี ในส่วนตลาดซื้อขายของกระทรวงพาณิชย์ก็ได้โอนมอบให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยดูแล แต่เชื่อว่าในอนาคตตลาดซื้อขายล่วงหน้าไทยจะมีบทบาทมากขึ้น ส่วนตัวรับปากว่า จะไปศึกษาเส้นทางการเงินของทั้ง 3 บริษัทใหญ่ดังกล่าว