"พวกแฟนคลับบอกให้พูดแรงๆ ดุกว่านี้ก็ได้ อีกพวกก็บอกว่าเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ไม่รู้ทำตัวยังไง ตกลงเป็นแบบผมดีกว่า แต่ผมว่าผมหงุดหงิดมากกว่าสมัยเป็น ผบ.ทบ.เสียอีก แปลกมั้ยเป็น ผบ.ทบ.ดูแลทหาร 2 แสนกว่าคนยังไม่เหนื่อยเท่านี้เลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่สังคมเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีข่มขืนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนไทยมีแนวคิดที่สุดโต่ง เราต้องปฎิบัติตตามกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของแต่ละคน จะใช้มาตรา 44 ไปเรื่อยๆ คงเป็นไปไม่ได้ และอย่าเคยชินกับความขัดแย้ง ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่สร้างความเท่าเทียมได้คือทุกคนต้องเคารพกฎหมาย หากใครทำผิดฏหมายแต่ไม่ยอมรับกฏหมายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ใครที่หนีคดีไปต่างประเทศก็ให้กลับมา
อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เสร็จสิ้นแล้วได้เดินจากห้องประชุมเพื่อเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล โดยผู้สื่อข่าวที่มารอสัมภาษณ์ได้พยายามสอบถามว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีอารมณ์ดีและหายโกรธหรือยัง นายกรัฐมนตรีไม่ได้กล่าวใดๆ แต่ทำท่าเอามือมาปิดปากตัวเอง และมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนขึ้นรถ