โดยจะมีการยกร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติว่าด้วยการบริหารโครงการดังกล่าว ในการกำกับดูแลโครงการฯ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพมหานครให้มีประสิทธิภาพและเศรษฐกิจชุมชนเกิดการหมุนเวียนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และจัดตั้งฝ่ายประชารัฐในสำนักงานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนกลไกประชารัฐในภาพรวมพร้อมประมวลข้อมูลสถิติ ข่าวสาร ตลอดจนการจัดทำโครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แก่สมาชิก และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ออกระเบียบการดำเนินโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐวงเงิน 35,000 ล้านบาท โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นหนึ่งชุด มีผู้แทนจากภาคราชการ ประชาชน และจากภาคเอกชนคือสถาบันการเงินของรัฐร่วมกันกลั่นกรอง และพิจารณาอนุมัติโครงการของแต่ละกองทุนที่เสนอของบประมาณไปลงทุนทำโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่นวงเงินกองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท โดยโครงการที่กองทุนจะเสนอขึ้นมาต้องผ่านการทำประชาคมที่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านด้วย
"เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการโอนเงินลงไปผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน, ธ.ก.ส., ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยกองทุนหมู่บ้านแต่ละแห่งต้องเปิดบัญชีใหม่ ชื่อว่า บัญชีประชารัฐ เพื่อแยกการบริหารจัดการออกมาจากบัญชีเดิมที่กองทุนเคยเปิดกับธนาคารไว้ ซึ่งจะทำให้กองทุนฯ รู้จักการจัดการบริหารงบประมาณส่วนนี้อย่างถูกต้อง และรองรับกรณีมีโครงการใหม่ๆในลักษณะใกล้เคียงกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" นายสุวพันธุ์ กล่าว
ส่วนการติดตามและประเมินผลโครงการนั้นได้มีการสร้างเครือข่ายอาสาประชารัฐ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ สทบ. และบุคคลในท้องถิ่น เพื่อช่วยติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการทุกขั้นตอนว่า โครงการได้ผ่านกระบวนการจัดทำตามระเบียบที่ออกหรือไม่ หรือต้องประเมินผลว่า เมื่อเริ่มดำเนินโครงการไปแล้วเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างไร ขณะเดียวกันยังได้ขอให้เพิ่มข้อกำหนดด้วยว่า ในการดำเนินโครงการนี้ต้องการให้มีความโปร่งใสสุจริต ไม่มีข้อครหาโดยเฉพาะการฮั้ว ซึ่งในระเบียบจะมีข้อกำหนดไว้ว่า หากพบความผิดปกติไม่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะระงับโครงการ และเรียกเงินกลับคืนด้วย
ทั้งนี้จะมีการจัดงานเปิดตัวโครงการดังกล่าวในวันที่ 19 ก.พ.นี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะเป็นการหารือระหว่างสมาชิก ประธานเครือข่าย ประธานกองทุนระดับอำเภอ ระดับจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำโครงการ โดยมีคู่มือการปฏิบัติงานชี้แจงให้กับผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบ ถือว่าเป็นการหารือครั้งสุดท้าย ก่อนจะเริ่มทยอยโอนเงินลงไปยังบัญชีใหม่ที่กองทุนเปิดไว้ หากโครงการที่กองทุนเสนอมมาได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการ ซึ่งคาดว่าวงเงินนี้จะทยอยออกในช่วงเดือน มี.ค.เป็นต้นไป โดยล่าสุดมีโครงการที่กองทุนเสนอมาแล้วกว่า 20,000 โครงการ