รัฐอัดงบ 3.5 หมื่นลบ. เพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ

ข่าวการเมือง Friday February 12, 2016 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) เพื่อพิจารณาโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั้งประเทศ ที่ประชุมฯ เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ เพื่อเป็นกลไกในการติดตามสนับสนุนโครงการฯ ซึ่งจะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา พร้อมสนับสนุนความเข้มแข็งและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แก่สมาชิกให้มีโอกาสพัฒนาความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดยจะมีการยกร่างระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติว่าด้วยการบริหารโครงการดังกล่าว ในการกำกับดูแลโครงการฯ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพมหานครให้มีประสิทธิภาพและเศรษฐกิจชุมชนเกิดการหมุนเวียนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และจัดตั้งฝ่ายประชารัฐในสำนักงานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์ แผนแม่บท และกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนกลไกประชารัฐในภาพรวมพร้อมประมวลข้อมูลสถิติ ข่าวสาร ตลอดจนการจัดทำโครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แก่สมาชิก และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้ออกระเบียบการดำเนินโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐวงเงิน 35,000 ล้านบาท โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นหนึ่งชุด มีผู้แทนจากภาคราชการ ประชาชน และจากภาคเอกชนคือสถาบันการเงินของรัฐร่วมกันกลั่นกรอง และพิจารณาอนุมัติโครงการของแต่ละกองทุนที่เสนอของบประมาณไปลงทุนทำโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่นวงเงินกองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท โดยโครงการที่กองทุนจะเสนอขึ้นมาต้องผ่านการทำประชาคมที่ได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านด้วย

"เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการโอนเงินลงไปผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน, ธ.ก.ส., ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยกองทุนหมู่บ้านแต่ละแห่งต้องเปิดบัญชีใหม่ ชื่อว่า บัญชีประชารัฐ เพื่อแยกการบริหารจัดการออกมาจากบัญชีเดิมที่กองทุนเคยเปิดกับธนาคารไว้ ซึ่งจะทำให้กองทุนฯ รู้จักการจัดการบริหารงบประมาณส่วนนี้อย่างถูกต้อง และรองรับกรณีมีโครงการใหม่ๆในลักษณะใกล้เคียงกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" นายสุวพันธุ์ กล่าว

ส่วนการติดตามและประเมินผลโครงการนั้นได้มีการสร้างเครือข่ายอาสาประชารัฐ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ สทบ. และบุคคลในท้องถิ่น เพื่อช่วยติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการทุกขั้นตอนว่า โครงการได้ผ่านกระบวนการจัดทำตามระเบียบที่ออกหรือไม่ หรือต้องประเมินผลว่า เมื่อเริ่มดำเนินโครงการไปแล้วเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างไร ขณะเดียวกันยังได้ขอให้เพิ่มข้อกำหนดด้วยว่า ในการดำเนินโครงการนี้ต้องการให้มีความโปร่งใสสุจริต ไม่มีข้อครหาโดยเฉพาะการฮั้ว ซึ่งในระเบียบจะมีข้อกำหนดไว้ว่า หากพบความผิดปกติไม่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะระงับโครงการ และเรียกเงินกลับคืนด้วย

ทั้งนี้จะมีการจัดงานเปิดตัวโครงการดังกล่าวในวันที่ 19 ก.พ.นี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะเป็นการหารือระหว่างสมาชิก ประธานเครือข่าย ประธานกองทุนระดับอำเภอ ระดับจังหวัด เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำโครงการ โดยมีคู่มือการปฏิบัติงานชี้แจงให้กับผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบ ถือว่าเป็นการหารือครั้งสุดท้าย ก่อนจะเริ่มทยอยโอนเงินลงไปยังบัญชีใหม่ที่กองทุนเปิดไว้ หากโครงการที่กองทุนเสนอมมาได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการ ซึ่งคาดว่าวงเงินนี้จะทยอยออกในช่วงเดือน มี.ค.เป็นต้นไป โดยล่าสุดมีโครงการที่กองทุนเสนอมาแล้วกว่า 20,000 โครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ