นายยงยศ อ่านแถลงการณ์ว่า จากการติดตามการทำรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีความน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะในร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติว่าด้วยการปกครองส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคไว้ในเนื้อหา เหมือนกับในรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่กำหนดให้รัฐต้องจัดระบบบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านฯ ขอให้ กรธ.พิจารณาเพิ่มเติมบทบัญญัติดังต่อไปนี้ คือ รัฐต้องดำเนินการนโยบายด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ดังต่อไปนี้ จัดระบบบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้มีขอบเขตอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบที่ชัดเจน เหมาะสมแก้การพัฒนาประเทศ และสนับสนุนให้จังหวัดมีแผนและงบประมาณเพื่อพัฒนาจังหวัด เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตาม และบังคับใช้กำหมายอย่างเคร่งครัดไว้ในหมวดว่าด้วยหน้าที่ของรัฐเพิ่มเติม ส่วนจะบัญญัติให้อยู่ในมาตราใดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กรธ.
นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเพื่อต้องการให้เขียนถ้อยคำให้ชัดเจน โดยปราศจากการตีความอีกในอนาคต ถึงแม้ กรธ.จะอธิบายว่าการปกครองส่วนกลางและส่วนภูมิภาคถูกระบบไว้ในมาตรา 72 ว่าด้วยรัฐพึงพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดินและงานของรัฐอย่างอื่น ซึ่งครอบคลุมการปกครองส่วนกลางและภูมิภาคแล้ว แต่เชื่อว่าจะก่อให้เกิดปัญหาการตีความในอนาคต ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหา กรธ.ควรเขียนให้ชัดเจน และการที่ กรธ.ได้ยกการปกครองท้องถิ่นให้เป็นหมวดใหม่โดยเฉพาะนั้นคาดว่าการเพิ่มบทบัญญัติตามสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เสนอไม่น่ามีปัญหาอะไร
ส่วนข้อกังวลว่าหาก กรธ.ไม่เขียนเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน ในอนาคตอาจมีการยุบตำแหน่งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านนั้น นายยงยศ กล่าวว่า ตนเองพร้อมที่จะทำหน้าที่อื่นใดก็ได้ แต่การธำรงไว้ซึ่งการปกครองในพื้นที่เป็นส่วนสำคัญของการนำนโยบายรัฐบาลลงไปในพื้นที่ จึงควรเขียนเนื้อหาให้ชัดเจน และที่ผ่านมาทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านก็ออกให้ความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญตลอดอยู่แล้ว ทั้งที่ข้อเสนอของสมาคมฯ ทางเครือข่ายจะติดตามอย่างใกล้ชิด หากข้อเสนอไม่ได้รับการยอมรับก็ให้สมาชิกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ติดตามการลงความเห็นว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญต่อไป
ขณะที่โฆษก กรธ. กล่าวว่า กรธ.ไม่ได้ละเลยการปกครองส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังคงให้ความสำคัญ ส่วนข้อเสนอที่ยื่นมานั้นไม่ต้องห่วง เพราะจะนำเข้าไปพูดคุยกับที่ประชุม กรธ.ต่อไป อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยทำความเข้าใจ แต่ไม่ใช่เป็นการชี้นำร่างรัฐธรรมนูญต้องผ่านประชามติหรือไม่ และอยากให้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ลงประชามติในวันที่ 31 ก.ค.59 กันมากๆ