"เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า มีสัดส่วนผู้ที่ระบุว่าทำงานได้ดีมากลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่มีผู้ระบุว่าทำงานได้ค่อนข้างดีและไม่ค่อยดีจนถึงระดับไม่ดีเลยกลับมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
โดยการทำงานช่วงดังกล่าวในด้านอุดมการณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ 84.56% ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์มีอุดมการณ์และความตั้งใจทำงานเพื่อชาติและประชาชน ขณะที่มีประชาชน 12.80% ระบุว่า ไม่มีอุดมการณ์ คิดแต่จะทำงานเพื่อรักษาอำนาจของตนเอง และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ระบุว่า มีอุดมการณ์ลดลงเล็กน้อย ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ระบุว่าไม่มีอุดมการณ์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ด้านความกล้าตัดสินใจ ประชาชนส่วนใหญ่ 84.72% ระบุว่ามีความกล้าตัดสินใจในประเด็นทางการเมืองและการบริหารที่สำคัญ ขณะที่มีประชาชน 13.52% ระบุว่าไม่มีความกล้าตัดสินใจในประเด็นทางการเมืองและการบริหารที่สำคัญ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกบผลสำรวจในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ระบุว่ามีความกล้าตัดสินใจลดลงเล็กน้อย ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ระบุว่าไม่มีความกล้าตัดสินใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ด้านบุคลิกภาพผู้นำ ประชาชนส่วนใหญ่ 72.88% ระบุว่ามีบุคลิกภาพผ้นำแบบทหาร รองลงมา 17.52% ระบุว่า มีบุคลิกภาพผ้นำแบบประชาธิปไตย ตามด้วย 7.36% ระบุว่า มีบุคลิกภาพผู้นำแบบก้ำกึ่ง ทั้งแบบผู้นำประชาธิปไตยและผู้นำแบบทหาร ซึ่งเมื่อเมื่อเปรียบเทียบกบผลสำรวจในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ระบุว่ามีบุคลิกภาพผู้นำแบบทหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่นเดียวกับผุ้ที่ระบุว่ามีบุคลิกภาพผู้นำแบบประชาธิปไตย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ระบุว่ามีบุคลิกภาพผู้นำแบบก้ำกึ่ง ทั้งแบบผู้นำประชาธิปไตยและผู้นำแบบทหารมีสัดส่วนลดลงเล็กน้อย
ด้านประสิทธิภาพการทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่ 76.08% ระบุว่า มีประสิทธิภาพในการทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศ ขณะที่มีประชาชา 21.76% ระบุว่า ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ระบุว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานลดลงเล็กน้อย ขณะที่สัดส่วนของผู้ที่ระบุวาไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ด้านความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในการทำงาน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 70.80% ระบุว่าการทำงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ขณะที่มีประชาชน 17.84% ระบุว่า การทำงานไม่มีความโปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า มีสัดส่วนของผู้ที่ระบุว่าการทำงานไม่มีความโปร่งใสตรวจสอบไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับความประทับใจในการทำงานของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 ประชาชนส่วนใหญ่ 43.68% ระบุว่า ประทับใจในการทำงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รองลงมาอันดับ 2 ประชาชน 42.32% ระบุว่าเป็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อันดับ 3 ประชาชน 42.16% ระบุว่าเป็นนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา อันดับ 4 ประชาชน 41.36% ระบุว่าเป็นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และอันดับ 5 ประชาชน 41.20% ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ส รมว.พัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์
ขณะที่ประชาชนไม่ประทับใจในการทำงานของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 ประชาชนส่วนใหญ่ 42.96% ระบุว่า ไม่ประทับใจ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ รองลงมาอันดับ 2 ประชาชน 36.40% ระบุว่าเป็นนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ อันดับ 3 ประชาชน 35.60% ระบุว่าเป็นนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ อันดับ 4 ประชาชน 35.36% ระบุว่าเป็น พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และอันดับ 5 ประชาชน 34.96% ระบุว่าเป็นนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม
ส่วนคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ประชาชนไม่รู้จัก 5 อันดับแรก พบว่า อันดับ 1 ประชาชนส่วนใหญ่ 26.24% ระบุว่า ไม่รู้จัก นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองลงมาอันดับ 2 ประชาชน 25.52% ระบุวว่าเป็นนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม อันดับ 3 ประชาชน 25.28% ระบุว่าเป็น พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน อันดับ 4 ประชาชน 25.20% ระบุว่าเป็นนายปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข และอันดับ 5 ประชาชน 24.88% ระบุว่าเป็นนายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ทั้งนี้ นิด้าโพลได้ทำการสำรวจดังกล่าวระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากประชาชนทั่วประเทศกระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,252 หน่วยตัวอย่าง