ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึง การเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานตามโรดแมพของรัฐบาล ให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึงตรงกัน นั้น พบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชน 93.3% ระบุรับรู้และเข้าใจ ในขณะที่ 6.7% ระบุไม่เข้าใจ
สำหรับการส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญ เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ การเลือกตั้ง การส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตามกระบวนการ และช่องทางที่ถูกต้องและเหมาะสม พบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชน 92.8% ระบุรับรู้และเข้าใจ ในขณะที่ 7.2% ระบุยังไม่เข้าใจ
นอกจากนี้เมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามถึง การส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย จากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างในเรื่องเหล่านี้ นั้น พบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชน 91.3% ระบุรับรู้และเข้าใจ ในขณะที่ 8.7% ระบุไม่เข้าใจ
ส่วนในประเด็นเกี่ยวกับ การสร้างความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนในสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับ การป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น การป้องกันการใช้อำนาจทั้ง 2 สภา และแนวทางการปฏิรูปประเทศนั้น พบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชน 91.2% ระบุรับรู้และเข้าใจ ในขณะที่ 8.8% ระบุยังไม่เข้าใจ
ผลการสำรวจยังพบว่าตัวอย่างแกนนำชุมชน 87.7% ระบุรับรู้และเข้าใจใน การดำเนินการเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ที่มีความผิดตามกฎหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งกฎหมายปกติ/คำสั่ง คสช. /มาตรา 44 ที่ยังคงไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ในขณะที่ 12.3% ระบุยังไม่เข้าใจ
การเผยแพร่ความรู้ และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้รับรู้รับทราบและเข้าใจอย่างแท้จริง พบว่า แกนนำชุมชน 85.0% ระบุรับรู้และเข้าใจ ในขณะที่ 15.0% ระบุยังไม่เข้าใจ ตามลำดับ สำหรับความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงานตามนโยบาย/มาตรการดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น พบว่า ผลการดำเนินงานที่ตัวอย่างแกนนำชุมชนมีความพึงพอใจมากที่สุด (จากการสำรวจในครั้งนี้) คือ การวางยุทธศาสตร์ชาติ ระยะสั้น- กลาง- ยาว การกำหนดพื้นฐานในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้ทุกรัฐบาลมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ไม่ทุจริต และใช้จ่ายงบประมาณอย่างถูกต้อง ที่พบว่า 88.6% ระบุพอใจ รองลงมาคือ การเผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินงานตามโรดแมพของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบและเข้าใจอย่างทั่วถึงตรงกันที่ พบว่า 88.5% ระบุพอใจ สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ที่มีความผิดตามกฎหมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งกฎหมายปกติ– คำสั่ง คสช.– มาตรา 44 ที่ยังคงไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ นั้นพบว่า 88.2% ระบุพอใจ นอกจากนี้ ยังพบว่า ตัวอย่างแกนนำชุมชน 88.1% ระบุมีความพึงพอใจในการดำเนินงานด้านการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนในสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น การป้องกันการใช้อำนาจทั้ง 2 สภา และแนวทางการปฏิรูปประเทศ 87.7% ระบุพึงพอใจในการส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย จากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างในเรื่องเหล่านี้ 87.6% ระบุพึงพอใจในการส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญ เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ การเลือกตั้ง การส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตามกระบวนการ และช่องทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ในขณะที่ 82.1% ระบุพึงพอใจในการเผยแพร่ความรู้ และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนรับรู้รับทราบและเข้าใจอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ หากพิจารณาคะแนนความพึงพอใจโดยเฉลี่ยต่อการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และ คสช. โดยภาพรวม นับตั้งแต่การสำรวจในช่วงปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมาจะพบว่าจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 7.5 -8.8 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยในการสำรวจครั้งล่าสุดในต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาพบว่า มีคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยเท่ากับ 8.00 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
อนึ่งมาสเตอร์โพลล์ ได้ทำการสำรวจกรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,074 ตัวอย่าง โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบใช้ความน่าจะเป็นทางสถิติจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลแกนนำชุมชนทั่วประเทศ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 4-9 มีนาคม 2559