(เพิ่มเติม) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นฟ้องคลัง-พลังงาน-ปตท.ปมคืนท่อก๊าซไม่ครบ-เรียกร้องคืนทรัพย์สินกว่า 5.2 หมื่นลบ.

ข่าวการเมือง Monday April 4, 2016 12:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศรีราชา วงศารยางกูร ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ตามที่พันโทแพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี และคณะได้ร้องเรียนขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีการไม่คืนท่อก๊าซธรรมชาติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและการนำท่อก๊าซซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินไปแสวงหาประโยชน์ของผู้ถูกร้องเรียน ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง รมว.คลัง กระทรวงพลังงาน รมว.พลังงาน อธิบดีกรมธนารักษ์ บมจ.ปตท. (PTT) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2555

สืบเนื่องจากศาลปกคองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.50 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ คือ คณะรัฐมนตรี, นายกรัฐมนตรี, รมว.พลังงาน และ PTT ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ PTT

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.50 ครม.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงานเกี่ยวกับการแบ่งแยกทรัพย์สิน อำนาจและสิทธิของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยที่จะให้เป็นของกระทรวงการคลังตามคำพิพากษา โดย ครม.มอบหมายให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังรับไปดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินและสิทธิตามหลักการดังกล่าวแล้วให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง ทั้งนี้หากมีข้อโต้แย้งทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับการตีความคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในการดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้มีข้อยุติต่อไป

การดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าว กระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และ PTT ได้ร่วมกันเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อในทะเลและบนบกที่เป็นทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ซึ่งยังไม่ได้แบ่งแยกให้กระทรวงการคลัง รวมทั้งระบบท่อที่ได้ก่อสร้างในที่ดินของรัฐภายหลังการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน โดยไม่มีผลตอบแทนคืนให้แก่รัฐ

โดย PTT ได้รายงานผลการดำเนินการตามคำพิพากษาอันเป็นเท็จนี้ต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.51 ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ได้ร่วมกันกระทำการแบ่งแยกทรัพยืสินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิในการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ PTT ให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยและคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดครบถ้วนแล้ว

ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ปรึกษาหารือและเห็นชอบร่วมกันกันแล้วมีความเห็นว่า กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ บมจ.ปตท. (PTT) ยังไม่ได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอบของมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.50 และไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

"หน่วยงานดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและประชาชนโดยไม่เป็นธรรม และมิได้รักษาผลประโยชน์ของชาติตามหน้าที่ของข้าราชการที่ต้องพึงปฏิบัติ มีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนและลัดขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญในการแบ่งแยกทรัพย์สิน ปล่อยปละละเลยมิได้เร่งรัด ติดตามทวงคืนทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จนกระทั่งมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง" นายศรีราชา กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำสั่งดังต่อไปนี้

1.ขอให้เพิกถอนมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.50 และวันที่ 10 ส.ค.53 ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งมอบทรัพย์สิน ประกอบด้วย ที่ดินที่ได้จากการเวนคืน สิทธิการใช้ที่ดินเหนือที่ดินเอกชน และทรัพย์สินที่เป็นระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ระบุไว้ในคำพิพากษาของศาล คือ โครงการท่อบางปะกง-วังน้อย, โครงการท่อจากชายแดนไทยพม่า-ราชบุรี และโครงการท่อราชบุรี-วังน้อย รวมถึงโครงการท่อย่อย ซึ่งมีมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 ก.ย.44 ประมาณ 16,175 ล้านบาท เนื่องจากมติ ครม.ดังกล่าวเกิดจากการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จของ รมว.พลังงาน (นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6

2.ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ PTT ดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินและโอนทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยให้กระทรวงการคลังตามมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 30 ก.ย.44 จำนวน 68,569 ล้านบาท ซึ่ง PTT ได้คืนไปแล้วประมาณ 16,175 ล้านบาท ดังนั้น PTT ยังคงต้องโอนคืนทรัพย์สินให้แก่กระทรวงการคลังอีกจำนวนไม่น้อยกว่า 52,393 ล้านบาท รวมทั้งค่าตอบแทนและผลประโยชน์อื่นใดจากการใช้ทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้แก่ ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร อุปกรณ์และทรัพย์สินอื่น และสิทธิหรือสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนที่ PTT ได้อาศัยใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการ พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนดให้ครบถ้วนต่อไป

3.เพิกถอนการแบ่งแยกทรัพย์สินในส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งแยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของ PTT ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎ

รายงานข่าว แจ้งว่า ผู้ถูกฟ้องในคดีนี้ ประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง, นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ อดีต รมว.คลัง, ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี อดีต รมช.คลัง, นายปิยสวัสดิ์ อมรนันท์ อดีต รมว.พลังงาน, นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีต รมว.พลังงาน, นายประสิทธิ์ สืบชนะ อดีตรองอธิบดีกรมธนารักษ์, นายอำนวย ปรีมนวงศ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์, นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตผู้บริหาร PTT, กระทรวงการคลัง, กระทรวงพลังงาน และ PTT


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ