พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวอวยพรปีใหม่ในประเพณีสงกรานต์ให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้นำเหล่าทัพ ข้าราชการ และสื่อมวลชนว่า วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายของปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่ และขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำงาน เพราะไม่สามารถทำงานตามลำพังเพียงคนเดียวได้ โดยยืนยันไม่ได้เข้ามาเพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ แต่ต้องการเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้าอย่างมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืนในอนาคต จึงขอให้เริ่มต้นเป็นปีแห่งธรรมาภิบาล โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการทำงาน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเห็นถึงความก้าวหน้าและเอาจริงเอาจัง แต่บางคนไม่เข้าใจเพราะปัญหาซับซ้อนจึงต้องแก้ไขให้เกิดความชัดเจน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ไม่ได้รังเกียจนักการเมืองหรือระบอบประชาธิปไตย แต่ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศจะมีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง มีนักการเมืองที่ดีและมีธรรมาภิบาล ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชน 70 ล้านคนที่จะนำประเทศหลุดพ้นจากกับดักของประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และรู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกที่มีการแข่งขันอย่างเสรี ดังนั้น วันนี้ต้องเร่งรัดแก้ปัญหา สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง และต้องสร้างความเข้าใจกับสังคมโลกว่าประเทศไทยกำลังทำอะไร และต้องนำสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องมาพิจารณา เพราะทุกเรื่องมีความสำคัญ ต้องลดความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งสร้างความเข้าใจต่างประเทศด้วย
"ขอโทษ ขออโหสิกรรม สิ่งใดที่พูดไม่ดี พูดไม่เพราะ อารมณ์ไม่ดีบางครั้งเผลอตำหนิไปบ้าง ก็ขออโหสิกรรมด้วย ทุกคนเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องที่รัก รวมถึงนักข่าวสื่อมวลชนก็ขออโหสิกรรมด้วยในวันนี้ แต่วันหน้าอย่าทำอีกแล้วกัน เลือกตั้งปีหน้าห่วงรัฐบาลที่จะเข้ามาปกครองประเทศจะเป็นอย่างไร ถ้าทุกว่าคิดว่าได้ ผมก็รับได้เสมอเพราะทุกคนเป็นห่วงประเทศ เรากำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศ หลายๆอย่างจึงไม่จำเป็นต้องทำตามต่างประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าแม้แต่อาเซียนที่รู้ว่าเรามีปัญหาก็ยังไว้ใจ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน หากประเทศเราอยู่ไม่ได้ ทุกประเทศก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเข้าใจ และถ้าประเทศไทยไม่มีเสถียรภาพ ประเทศอาเซียนก็ล้มตามกันหมด จึงขอให้ภูมิใจในความเป็นไทยของเรา ดังนั้นการแก้ไขปัญหาอดีตที่สะสมมาหลายสิบปี ต้องใช้เวลาวันนี้เรารักษากฎหมายและกติกา จึงขออย่าทำอะไรผิดกฎหมาย และมาอ้างถึงสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตย
ส่วนการตั้งคำถามพ่วงประชามติที่ให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผู้ที่มีสิทธิเสนอชื่อนายกฯ คือ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ให้ ส.ว.มีส่วนร่วมในการประชุมและลงความเห็น
"แล้วมันเกี่ยวกับคนนอกตรงไหน เพราะยังมีความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจในรัฐบาลหน้า แค่นี้ ก็ขอแค่นั้นทำได้ไหม ส.ว.ไม่ได้เสนอเอง หรือจะให้ทำงานภายใต้คนไม่ดีมาปกครอง ถ้าคิดว่าทำประเทศชาติให้ปลอดภัยก็เสนอคนดีเข้ามาบริหารประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว