พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอเพื่อความคล่องตัวในการพิจารณาคดี เนื่องจากมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องมากถึง 7 ฉบับและหน่วยงานรับผิดชอบหลายหน่วยงาน นอกจากนี้ปัญหาการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดยังมีความหลากหลาย สลับซับซ้อน และพัฒนาไปจากเดิมมาก
"เมื่อเราเห็นปัญหาตรงนี้แล้วกระทรวงยุติธรรมจึงได้ยกร่างกฎหมายประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกเรื่องมารวมไว้ฉบับเดียว เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ต้นทางคือการป้องกันจนกระทั่งถึงปลายทางคือการดำเนินคดี" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหายาเสพติด เพราะแต่เดิมปัญหายาเสพติดถูกมองเป็นเพียงแค่ภัยของสังคม แต่ปัจจุบันกลายเป็นภัยของโลกไปแล้ว
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้จะแยกแยะผู้ที่เกี่ยวข้องออกเป็นกลุ่มเพื่อกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน คือ 1.กลุ่มตัวการใหญ่ ได้แก่ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ส่งออก มีบทลงโทษจำคุกตั้งแต่ 30 ปีจนถึงประหาร และการริบทรัพย์ 2.กลุ่มแรงงาน ซึ่งรับจ้างเป็นผู้ขนส่ง ขาย จำหน่าย จ่าย แจก มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี เน้นการลงโทษและการสืบสวนเพื่อหาต้นตอ 3.กลุ่มเหยื่อ ซึ่งเป็นผู้เสพ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-2 ปี เน้นการบำบัดและฟื้นฟู
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่จำเลยหลบหนี ศาลมีอำนาจที่จะสืบพยานลับหลังได้ และมีอำนาจพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานในกรณีที่จำเลยรับสารภาพได้ ซึ่งทำให้กระบวนการในการดำเนินคดีต่อเนื่องภายใต้กระบวนการยุติธรรมที่มีมาตรฐาน ไม่มีปัญหาคดีค้างในศาล