นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.พาณิชย์ ได้ออกมาขอความเป็นธรรมผ่านการโพสต์ข้อความในเฟซบุคส่วนตัว "Watana Muangsook" ระบุว่า "ขอความเป็นธรรมให้ผมด้วย" หลังจากที่ผมได้โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงว่า การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 แต่วานนี้ (14 เมษายน) ทหารก็ยังยกกำลังมาที่บ้านเพื่อจะควบคุมตัวผมไปปรับทัศนคติ โดยทีมโฆษก คสช. เปิดเผยสาเหตุการเชิญตัวว่าผมให้ความเห็นในเชิงไม่สร้างสรรค์ ผิดข้อตกลงที่ให้ไว้และมีเจตนาท้าทายอำนาจของ คสช. ขณะนี้กองกำลังยังปักหลักปิดหน้าบ้านจนลูกเมียผมเข้าบ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปหาที่นอนใหม่ ยกกำลังกลับไปเถิดครับ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ผมเสร็จธุระแล้วจะมาพบท่านแน่นอน อย่าใช้วิธีสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไม่ใช่วิธีของชายชาติทหารครับ
เมื่อคราวที่ คสช ยึดอำนาจการปกครอง ผมและนักการเมืองอื่นประมาณ 200 คน ถูกเรียกไปรายงานตัวและถูกนำตัวควบคุมตัวเป็นเวลา 3-7 วัน ก่อนที่จะปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ได้เอาเอกสารมาให้ผมลงนามมีเงื่อนไขว่า (1) จะไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า คสช. (2) จะละเว้นการเคลื่อนไหวหรือประชุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ และ (3) หากฝ่าฝืนหรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองยินยอมถูกดำเนินคดีและระงับธุรกรรมทางการเงิน
ดังนั้น การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเหมือนกับที่หัวหน้าพรรคการเมืองและผู้บริหารของทั้งสองพรรค จึงไม่ได้เป็นการทำผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ อีกทั้งการผิดข้อตกลงก็ไม่ได้ให้อำนาจ คสช. นำกำลังมาควบคุมตัวผมไปใหนทั้งสิ้นนะครับ ท่านมีอำนาจที่จะดำเนินคดีหรือระงับธุรกรรมทางการเงินตามข้อตกลงเท่านั้น ทั้งนี้เป็นตามข้อตกลงที่ผมโพสต์มาให้ดูเป็นหลักฐานด้วยแล้ว ขอความกรุณาอย่าบิดเบือนเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจเลยครับ
ผมเป็นเพียงนักการเมืองเล็กๆ คนหนึ่งที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า ผมเชื่อว่าการเปิดเสรีภาพทางความคิดจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ส่วนหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยที่แท้จริงจะทำให้คนไทยทุกสีทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติแม้จะคิดเห็นไม่ตรงกันก็ตาม ผมต่อสู้เพื่อหลักการที่ถูกต้องไม่ได้ทำเพื่อสีหรือกลุ่มการเมืองใด การแสดงความคิดเห็นของผมเป็นไปโดยสุจริตเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยโกรธกับการที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผมและได้อโหสิกรรมให้แล้วทุกครั้ง เพราะเชื่อแม้เราจะมีความคิดที่ต่างกันแต่มีเป้าหมายตรงกันคือเพื่อประเทศชาติ แต่การที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผมทำให้ครอบครัวผมเดือดร้อน ลูกผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยผม การนำตัวผมไปปรับทัศนคติไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนความคิด ผมไม่เคยคิดท้าทายอำนาจของ คสช. ทั้งไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือข้อตกลงใดๆ เพียงแต่อาจคิดเห็นไม่เหมือนท่าน
"ผมพร้อมที่เป็นเพียงเม็ดกรวดเล็กๆ ในสะพานที่จะนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงขอความเป็นธรรมช่วยกรุณาทบทวนคำสั่ง มาร่วมมือกันทำประเทศไทยให้น่าอยู่สำหรับคนไทยทุกสีทุกกลุ่มดีกว่ามั้ยครับ" นายวัฒนา ระบุ