พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุดบุตรสาวของนายวัฒนา ได้เข้าร้องเรียนต่อคณะผู้แทนสหภาพยุโรปว่าถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ละเมิดสิทธิมนุษยชนว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงแล้ว และเห็นว่าก่อนที่จะถามหาสิทธิมนนุษยชน ควรกลับไปดูว่านายวัฒนา ได้กระทำผิดกฏหมายหรือไม่
"กฎหมายมีหรือไม่ ว่าห้ามทำอะไร พูดตรงนี้ก่อน อย่าเพิ่งไปพูดเรื่องละเมิดสิทธิ ถ้าคุณละเมิดสิทธิ คุณก็ต้องโดนจับเหมือนกัน ให้รู้ว่าอะไรคือกฎหมาย อย่าไปมองเฉพาะปลายเหตุ ถ้ามองปลายเหตุก็ต้องตีกันอยู่แบบนี้ แล้วแทนที่ประเทศเราจะดีขึ้นก็กลายเป็นว่าไปไม่ได้ ประชามติก็เดินหน้าไม่ได้ เลือกตั้งก็เดินหน้าไม่ได้อีก แล้วจะเอาอะไรกัน ไม่ช่วยกันแก้ ไม่ให้จบไปทีละเรื่อง กลับไปกลับมากันอยู่แบบนี้ ช่วยสิครับ ช่วยชี้แจงหน่อยว่าเขาทำผิดกฎหมาย ให้อภัยมาหลายครั้งแล้ว กฎหมายก็เขียนไว้ คำสั่งก็เขียนไว้ คำสั่งก็คือกฎหมาย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีบางกลุ่มนัดรวมตัวกันสวมเสื้อสีขาวเคลื่อนไหวให้ปล่อยตัวนายวัฒนาว่า ยืนยันว่าจะมาเรียกร้องในเชิงสัญลักษณ์ไม่ได้ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การพิจารณาของศาล ซึ่งก่อนหน้านี้นายวัฒนา ได้เซ็นรับทราบและสัญญาว่าจะไม่เคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 แล้ว แต่ที่ผ่านมา คสช.ก็อนุโลมให้มาตลอด ดังนั้นวันนี้ต้องเข้มงวดเรื่องกฎหมาย ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวายตลอดเวลา
พร้อมระบุว่า จากนี้ไปจะจับตาทุกกลุ่มการเมืองที่มีการเคลื่อนไหวและหากละเมิดกฏหมายก็จะถูกดำเนินการ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างต้องดูที่เจตนาด้วย ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์ก็ไม่ผิด แต่หากทำให้เกิดความขัดแย้งก็ไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าทุกคนอยากให้บ้านเมืองกลับไปโกลาหลเช่นเดิมอีกก็ตามใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะไม่ให้มีการรณรงค์ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน เพราะมองว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แต่จะมีแค่การเดินสายชี้แจงทำความเข้าใจของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เท่านั้น ขณะเดียวกันไม่ห่วงการลงพื้นที่ของกรธ.ที่อาจมีนักการเมืองเล่นนอกกติกา เพราะมีกฏหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติเข้ามาดูแล ซึ่งมีบทลงโทษถึง 10 ปี