เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวโดยให้นายวิมล จันทรโรทัย ตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม เพื่อย้ายหรือโอนไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ และให้นายอดิศร พร้อมเทพ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง แทน
ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวยอมรับว่า อธิบดีกรมประมงที่โยกย้ายไปนั้นมีบุคลิกที่ค่อนข้างเป็นนักวิชาการ ไม่เก่งงานด้านบริหาร ทำให้การทำงานที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความล่าช้า หลายงานยังไม่เกิดความก้าวหน้าตามที่เป้าหมายที่วางไว้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งอธิบดีที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่า อธิบดีคนใหม่นี้ จะสามารถเร่งรัดการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ได้ดีขึ้น
"ถือเป็นเรื่องปกติของการบริหารงานที่จะมีการโยกย้ายผู้บริหารภายในกระทรวง ซึ่งเมื่อ 2 – 3 วันก่อนก็จะเห็นได้ว่าในหลายๆกระทรวงก็มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารภายในเช่นกัน นอกจากนั้น ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาไอยูยู เนื่องจากจะครบระยะเวลา 1 ปีที่ได้รับใบเหลืองไอยูยูจากสหภาพยุโรป (อียู) ผมจึงอยากเห็นกรมประมง มีการปรับเปลี่ยนการทำงาน มีการทำงานอย่างกระฉับกระเฉงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องตัดสินใจปรับเปลี่ยน
และหากอธิบดีกรมประมงคนใหม่นี้ ทำงานไม่เป็นที่น่าพอใจอีก ก็พร้อมที่จะมีการปรับเปลี่ยนได้ทันที โดยผมก็พยายามหาคนที่ทำงานได้และมั่นใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งเท่าที่ผ่านมากอธิบดีคนก่อนก็ทำงานได้ แต่ด้วยโครงสร้างของกรมประมงที่มีการปรับเปลี่ยนการทำงาน มีขนาดองค์กรที่ใหญ่ขึ้น และหลายเรื่องของกรมประมงก็จำเป็นจะต้องเร่งรัดการทำงานมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนอธิบดีคนใหม่ขึ้น" รมว.เกษตรฯ กล่าว