นายจตุพร พรหมพันธ์ พร้อมด้วยแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ นายยศวริศ ชูกล่อม นายสมหวัง อัศราสี นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ ร่วมแถลงข่าวถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้น 14 ข้อ หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ
นายจตุพร กล่าวว่า ทางกลุ่มใช้สิทธิ์แถลงวันนี้ เช่นเดียวกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประชาธิปไตย ที่แถลงวันนี้ เวลาเดียวกัน ขอเรียกร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำความชัดเจน พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ซึ่งบัญญัติพฤติการณ์ที่เป็นการขัดขวางการทำประชามติกว้างเกินไป นปช.ได้แสดงเจตนารมณ์ส่วนตัวว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ชักจูงใคร และไม่อยากให้มองคนที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเป็นคนผิด
“ผมเห็นว่าบรรยากาศในการทำประชามติต้องไม่ทำให้ประชาชนอยู่ในความหวาดกลัว แม้กระทั่งการแสดงความคิดเห็น ถ้าหากคสช.กังวลหรือกลัวมากไปก็ควรยกเลิกการทำประชามติ" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า วันที่ 7 สิงหาคมนี้ เราทุกคนต้องเดินทางไปใช้สิทธิ์อย่างพร้อมเพรียง ทำเพื่ออนาคตของลูกหลานเรา แต่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาตั้งแต่เปิดหีบจนนับคะแนนเพื่อป้องกันการทุจริต และคสช.ควรเปิดให้องค์กรต่างชาติเข้ามาสังเกตุการทำประชามติ ด้วย
นางธิดา กล่าวว่า เอกสารที่แสดงถึงผลที่จะเกิดขึ้น 14 ข้อหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ นปช.ได้ส่งให้ กกต.ตรวจสอบแล้ว เพื่อป้องกันการทำผิด พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ เอกสารดังกล่าวเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รับรู้ เช่น พรรคการเมืองใหญ่ได้จำนวน ส.ส.ไม่ทิ้งห่างกันมาก แต่พรรคขนาดกลางจะได้ส.ส.มากขึ้นจึงนำไปสู่รัฐบาลผสม มีโอกาสได้นายกรัฐมนตรีคนนอกที่ไม่ใช่ส.ส. พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินนโยบายได้โดยไม่ผ่านความเห็นชอบขององค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจไทยถดถอยเข้าสู่มุมอับมากขึ้น อันเนื่องจากการเมืองไม่มีเสถียรภาพและถูกต่อต้านจากประเทศเสรีประชาธิปไตย ความขัดแย้งจะขยายตัวมากขึ้นถ้ามีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดังนั้นนปช.ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ขอให้ทุกคนไปใช้สิทธิ์ลงประชามติวันที่ 7 สิงหาคม 2559