นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่าส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่ดี และเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมือง เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ให้ความหวังในการปฏิรูปประเทศ และประเทศชาติได้ประโยชน์ พร้อมทั้งเห็นด้วย กับที่มา ส.ว. 250 คน ที่จะมาทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศ 5 ปี ส่วนตัวเชื่อมั่น ว่าจะมีการทำประชามติได้ เพราะเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรีว่าจะสามารถดูแลสถานการณ์บ้านเมืองให้สงบได้ พร้อมทั้ง เชื่อว่า ประชาชนจะให้ความร่วมมือกับนายกฯ ในการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ขณะเดียวกันปฏิเสธท่าที กปปส. กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เห็นไม่ตรงกัน ระบุว่าเป็นคนละส่วน เพราะกลุ่ม กปปส. เคลื่อนไหวในฐานะประชาชน ยืนยันจะเดินหน้าต่อไป ย้ำ จะไม่ตั้งพรรคการเมืองและไม่ลงสมัครเลือกตั้ง
นายสุเทพได้แถลงถึงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะที่เป็นคนไทย และเป็น กปปส. ก็เปรียบเหมือนเป็นร่างทรงของประชาชน ตนตั้งใจว่าเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย จะแสดงความเห็น แต่มีกฎหมายว่าด้วยประชามติออกมาใช้บังคับ หากตนจะออกมาแสดงความเห็นคงไม่เหมาะสม
“ผมรู้สึกชื่นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นี้ มากเป็นพิเศษ โดยรวมพอใจตั้งแต่คำปรารภที่แสดงออกถึงความชัดเจนของไทย ที่ต้องการให้ปกครองตามระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นการเขียนแทนเจตนารมย์ของคนไทยทั้งประเทศ ที่ต้องการปกครองด้วยระบอบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นร่างที่ถูกใจแล้วสำหรับพวกผม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องช่วยกันพิจารณาให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้ เชื่อเป็นรัฐธรรมนูญที่จะแก้วิกฤติการณ์ประเทศได้ และต้องมีการปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้าน ทั้งการเมือง ราชการ การปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ความเหลื่อมล้ำและการปฏิรูปตำรวจ"
นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีกว่าฉบับอื่นเพราะกำหนดไว้ว่ารัฐบาลมีหน้าที่ต้องอุปถัมภ์ดูแลและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อไม่ให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาในฐานะที่เป็นชาวพุทธ ตนก็รู้สึกว่าชื่นชอบและพอใจ ส่วนเรื่องของการมีวุฒิสมาชิก ก็สอดคล้องกับความจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้อย่างเหมาะสม เพราะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเสนอตัวเข้ามาสู่กระบวนการเพื่อเข้ารับการเลือกตั้งและทำหน้าที่เป็นส.ว.ได้ ซึ่งจะเป็น ส.ว. ที่อิสระไม่มีใครมาครอบงำได้
รัฐธรรมนูญยังกำหนดให้พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อบุคคล 3 คน เพื่อเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีคนนอกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อดูแลสถานการณ์การเมืองในภาวะไม่ปกติได้ กรณีที่อาจมีพรรคการเมืองที่ไม่เห็นพ้องหรือไว้เนื้อเชื่อใจกันและกัน ที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีของตนเข้ามา แต่ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไรมากมาย เพราะเป็นเรื่องที่พรรคแต่ละพรรคการเมืองจะต้องคุยกันก่อน เพื่อเปิดทางให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอก โดยให้ส.ส.ที่ประชาชนเลือกมาเป็นคนเลือกนายกรัฐมนตรีตามกระบวนการ ซึ่งตนเห็นว่ามีหลายเรื่องที่สะท้อนว่ารัฐธรรมนูญนี้ดีมาก ที่จะสามารถทำให้ประเทศไปสูความเจริญอย่างแท้จริง
เมื่อถามว่า บทเฉพาะกาลกำหนดให้ ส.ว.250 คนทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องให้ประชาชนที่มีความตั้งใจเป็น ส.ว. สมัครเข้าไป 250 คนแต่ 250 คนมีในบทเฉพาะกาลที่เป็นข้อยกเว้น ตนเชื่อว่าประชาชนเอง ก็กังวลเช่นกันว่าเมื่อมีการเลือกตั้งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ส.ว.ก็เป็นแค่บทเฉพาะกาลให้ผ่านช่วงนี้ไป ตนจึงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะตนอยู่ในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤติ เพื่อเป็นหลักประกันแก่ประชาชนว่าจะได้รัฐบาลที่ดี
ต่อข้อถามว่าคำถามพ่วงที่มีในร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า การแสดงเนื้อหาที่มีอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญทั้งหมดตนเห็นด้วย แต่คำถามพ่วงจะสั้นหรือยาวนั้น ตนยังไม่เห็น ซึ่งจะให้ ส.ว เลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ตนและประชาชนเห็นด้วย เพราะคงเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ และกรณีที่เขียนไว้ก็เฉพาะกรณีพิเศษเท่านั้น
ต่อข้อถามว่าขณะนี้เริ่มมีความเคลื่อนไหวทางการเมือง การทำประชามติจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะแก้ปัญหาได้ และเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือนายกรัฐมนตรีในการลงเสียงประชามติ เพราะทุกคนทราบดีและอยากให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้โดยความสงบเรียบร้อยเหมือนกับที่นายกรัฐมนตรีคิด