พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสนใจกระแสต่อต้านโจมตีรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะประเด็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่แสดงออกเกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพราะขณะนี้ให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้อง และความปลอดภัยของประชาชนเท่านั้น
ส่วนสถานการณ์ที่มีกลุ่มต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติออกมาเคลื่อนไหว ก็มีกฎหมายที่ใช้ควบคุมดูแลอยู่แล้ว ซึ่งการแสดงความคิดเห็นต่างๆต้องพิจารณาว่ามีความบริสุทธิ์ใจหรือมีการใช้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ หากไม่บิดเบือนก็ถือว่าไม่ขัดกับกฎหมาย แต่หากบิดเบือนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากติดตามข้อมูลจะพบว่ากลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวก็คือกลุ่มแกนนำหน้าเดิมที่เคลื่อนไหวเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยสามารถแสดงออกได้ด้วยการมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติ แต่ไม่สามารถชักจูงให้ผู้อื่นรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้ ส่วนที่มีกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) บางคนเสนอให้ยกเลิกการทำประชามติหากสถานการณ์ไม่สงบนั้น คงไม่สามารถทำได้ เพราะรัฐธรรมนูญมีการระบุไว้ชัดเจนหากไม่ปฏิบัติตามก็จะถือว่าทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าทั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสมาชิกสภานิติบัญยัติแห่งชาติ (สนช.) และฝ่ายอื่นๆ มีเจตนาดีต่อประเทศ แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับข้อเสนอให้องค์กรต่างประเทศเข้ามาสังเกตุการณ์ทำประชามตินั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลและ คสช.ไม่ได้ห้าม แต่ต้องเข้ามาในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ และมีเจตนาที่บริสุทธิ์ รัฐบาลไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะมีเจตนาที่บริสุทธิ์ที่จะทำให้การลงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยนำไปสู่การเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดปรับคณะรัฐมนตรีเพราะการทำงานของทุกคนกำลังลงตัว มีศักยภาพและมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องปรับ