โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดพายุฤดูร้อน 39 จังหวัด โดยกำชับให้ฝ่ายปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และทหารในพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยฝนหลวงขึ้นบินเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนลดปัญหาแล้ง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นห่วงพี่น้องประชาชนใน 39 จังหวัดทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก และ กทม. กรณีเกิดพายุฤดูร้อนตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศว่าจะเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ หลังได้รับรายงานว่า บางพื้นที่ได้รับความเสียหายจากลูกเห็บ พายุลมแรงพัดหลังคาและอาคารบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นแล้ว
"นายกฯ ได้กำชับฝ่ายปกครอง ปภ. และทหารในพื้นที่ให้ดูแลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น มอบถุงยังชีพ หรือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนระมัดระวังตนเอง ไม่ออกนอกบ้านเมื่อเกิดพายุ หรืออยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
สำหรับฝนที่ตกลงมาช่วยคลายความร้อนได้ในระดับหนึ่ง แม้ส่วนใหญ่จะตกในพื้นที่ท้ายเขื่อนซึ่งไม่ทำให้มีน้ำมากพอที่จะเติมน้ำในเขื่อนได้ แต่ลักษณะอากาศเช่นนี้มีความชุ่มชื้น เหมาะสมต่อการปฏิบัติการฝนหลวง
"นายกฯ จึงได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศขึ้นบินทำฝนหลวงในพื้นที่เหนือเขื่อน เพื่อให้มีฝนตกเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อน เป็นน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา และจัดสรรเพื่อการอุปโภค คลี่คลายปัญหาการขาดแคลนน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว