นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรณรงค์ก่อนการทำประชามติว่า ยาแรงที่รัฐบาลกำลังใช้อยู่ จะมีผลต่อจำนวนคนออกมาใช้สิทธิหรือไม่ ตนไม่กังวล ถ้ายิ่งคนออกมาใช้สิทธิน้อย จะยิ่งเป็นผลดีกับรัฐบาลและกรธ. เพราะหลักเกณฑ์การผ่านประชามติ ใช้เสียงกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ แต่ที่ตนกังวล คือหลักการสิทธิเสรีภาพประชาชน ทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยควรมีสิทธิแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด รู้สึกว่าตนเองได้สิทธิด้อยกว่า เราจะไปหวังเรื่องสมานฉันท์ สันติ หรือการปรองดองได้ยากหน่อย เรื่องสิทธิถ้าไม่เท่าเทียม กระทบจิตใจของคน ขณะนี้ต้องวัดกระแสว่า ทั้งฝ่ายเห็นด้วย ไม่เห็นรู้สึกอย่างไร ถ้าเขามีความรู้สึกว่าไม่เท่าเทียม ต่อให้รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ 7 ส.ค.ก็จะสร้างปัญหาในอนาคต
อย่างไรก็ตาม คำอธิบายของ กกต.เรื่องอะไรทำได้หรือไม่ได้ระหว่างรณรงค์ ขนาดนักกฎหมาย ใช้กฎหมายบ่อยๆอย่างตนยังไม่เข้าใจเลย ประชาชนที่เขาไม่ใช่นักกฎหมายเขาจะปฏิบัติตัวยากมาก บางเรื่อง กกต.อธิบาย ยกตัวอย่างยาวเหยียดแต่ความหมายกลับยังกำกวม ไม่ตรงประเด็นไม่เห็นภาพ บางเรื่องยกตัวอย่างมาไม่ตรงไม่เห็นภาพ ชีวิตมนุษย์เขาไม่ให้ทดลองกฎหมาย ทดลองยา กฎหมายประชามติพอกำกวม อธิบายไม่ชัด จึงต้องมีคนสังเวยกฎหมายนี้ไปแล้ว
ส่วนประเด็นการตอบโต้กันของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้า คสช.นั้น ปล่อยให้คนระดับนายกรัฐมนตรีเขาว่ากันดีกว่า ระดับหางแถวอย่างเราๆ คงคอยฟังอย่างเดียว แต่เมื่อนายกฯคนหนึ่ง พูดถึงนายกฯอีกคนหนึ่ง อยากจะทราบข้อเท็จจริงเหมือนกันว่าสองปีก่อน พล.อ.ประยุทธ์ พูดเหมือนน.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมากล่าวอ้างหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้พูดในแง่บวกของพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าประยุทธ์จะออกมาอธิบาย หรือชี้แจงเพิ่มเติม เราอยากจะฟังคำตอบสองปีที่แล้ว ท่านพูดจริงอย่างที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าหรือไม่