พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งจากคำตัดสินล่าสุดของศาลอาญา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.58 ที่ในตอนหนึ่งมีถ้อยคำระบุว่า กลุ่มธุรกิจ NVPSKG ร่วมกันบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการช่วยเหลือกันของเจ้าหน้าที่ให้ทุจริต ดังนั้นจึงทำให้เห็นว่าจุดนี้จะเป็นหลักฐานข้อมูลใหม่ที่จะให้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) อาจจะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินชดใช้คดีคลองด่านให้แก่กลุ่มธุรกิจ NVPSKG ในงวดที่ 2 (21 พ.ค.59) และ งวดที่ 3 (21 พ.ย.59)
โดยวันนี้ นายวิษณุ ได้มีประเด็นนำเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมครม. 3 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ให้ครม.รับทราบคำสั่งของคณะกรรมการธุรกรรม ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เรื่องการอายัดสิทธิของกลุ่มธุรกิจ NVPSKG ที่จะเรียกเงินจากกรมควบคุมมลพิษ ในงวดที่ 2 (21 พ.ค.59) และ งวดที่ 3 (21 พ.ย.59) ไว้ก่อน
ประเด็นที่ 2 เมื่อรับทราบในคำสั่งของ ป.ป.ง.แล้ว ครม.ต้องให้ความเห็นชอบที่จะให้กรมควบคุมมลพิษชะลอการจ่ายเงินในงวดที่ 2 และ 3 ไว้ก่อน เพื่อรอให้กลุ่มธุรกิจ NVPSKG มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ ป.ป.ง.ภายใน 30 วัน ซึ่งหากการชี้แจงสามารถมีเหตุผลรับฟังได้ จึงจะยอมให้กรมควบคุมมลพิษจ่ายเงินในงวดที่ 2 และ 3 แต่หากชี้แจงแล้วข้อมูลไม่น่าเชื่อถือก็จะอายัดสิทธิจาก NVPSKG ไว้
ประเด็นที่ 3 เห็นชอบให้กระทรวงการคลังไปร้องศาลปกครองให้พิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง
"เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดตัดสินว่ากรมควบคุมมลพิษจะต้องจ่ายเงินให้กับกลุ่ม NVPSKG เป็นเงินกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งพอมีหลักฐานใหม่จึงได้ขอความเห็นชอบจากครม.เพื่อให้กระทรวงการคลังไปร้องศาลปกครอง เพื่อให้ศาลปกครองหยิบคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพราะมีข้อมูลหลักฐานใหม่เกิดขึ้นจากผลคำตัดสินของศาลอาญาเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.58 จากกรณีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง" พล.ต.สรรเสริญ ระบุ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการรื้อการพิจารณาคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านว่า คณะรัฐมนตรี รับทราบถึงมติป.ป.ง. ที่สั่งอายัดสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย ตามอำนาจในมาตรา 48 และถือเป็นอำนาจของ ป.ป.ง. ที่สามารถดำเนินการได้
ส่วนที่เสนอให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้เสียหาย ยื่นเรื่องให้ศาลปกครองกลางพิจารณาคดีบ่อบำบัดน้ำเสียใหม่ เนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม โดยอ้างอิงคำพิพากษาของศาลอาญา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะไม่จ่ายเงินชดเชย ตามคำสั่งของศาลปกครอง แต่เมื่อมีคำทักท้วงของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็นำกลับมาพิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงใดที่รัฐไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนนี้ พร้อมทั้งได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีกรณีที่รัฐถูกฟ้องกลับและแพ้คดีก็ต้องเตรียมหาทางออกไว้ด้วยและยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้ตามกระบวนการของกฎหมาย