พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ.2561-2565) จะเป็นแนวทางในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นการปฏิรูป การแก้ไขปัญหาการทุจริตของประเทศในองค์รวมที่เท่าทันต่อสถานการณ์ และมุ่งหวังให้ปัญหาการทุจริตของประเทศลดลง และประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังจะถูกใช้เป็นกรอบในการบูรณาการการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ โดยหน่วยงานภาครัฐสามารถนำไปกำหนดเป็นแผนปฏิบัติการประจำปี และมีแนวปฏิบัติด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นกรอบหลักสำหรับการจัดทำคำของบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2561 อีกด้วย
โดยเป้าหมายหลักด้านการปราบปรามการทุจริตจะมุ่งเน้นที่การปฏิรูปและเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมาย ที่รวดเร็ว และเป็นธรรม ผู้กระทำผิดต้องได้รับการลงโทษ นอกจากนี้ทั้งงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตก็ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามมาตรฐานสากล
สำหรับยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ 3 เป็นการพัฒนาต่อยอดสิ่งที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินการเดิมให้เกิดผลที่ดีกว่า และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการดำเนินการในทุกมิติ เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุด ที่จะนำไปสู่ระบบกลไกต่างๆ ของประเทศที่ปลอดการทุจริต หรือให้มีน้อยที่สุด ซึ่งการจะมุ่งสู่จุดนั้นได้ ต้องอาศัยการกำหนดยุทธศาสตร์ที่เฉียบคม ทั้งการสร้างสังคมยุคใหม่ ชุดนิสัยของคนไทยยุคใหม่ที่ไม่อดทนต่อการทุจริต การกำกับให้เจตนารมณ์ของฝ่ายการเมืองในการต่อต้านการทุจริตมีเสถียรภาพ การสร้างให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการนโยบายอย่างแท้จริง การปฏิรูปงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและการยกระดับภาพลักษณ์ความโปร่งใสของประเทศไทยในเวทีโลก
ทั้งนี้ หลังเสร็จจากขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นแล้ว จะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์แผนงานโครงการร่วมกันและออกแบบระบบการติดตามและประเมินผล และเมื่อเสร็จแล้วจะได้มีการนำยุทธศาสตร์ชาติฯ ระยะที่ 3 ฉบับสมบูรณ์ ชี้แจงต่อสาธารณะ ซึ่งกำหนดไว้เบื้องต้นจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ พร้อมประสานและหารือกับรัฐบาลโดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณในลักษณะบูรณาการที่เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนของภาคส่วนต่างๆ ซึ่งในอนาคตควรกำหนดเป็นสัดส่วนของงบประมาณแผ่นดินที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้การขับเคลื่อนเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างถ้วนทั่วและต่อเนื่อง