พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานว่า อนุกรรมการปฏิรูประบบงานความมั่นคง ได้รายงานความคืบหน้าตามที่รัฐบาลกำหนดเป้าหมายความมั่นคงรูปแบบใหม่ให้ครอบคลุมภัยคุกคามทุกประเภท โดยเน้นให้คนไทยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและให้เกิดความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ที่จะพัฒนาฐานรากของสังคมไทย บนพื้นฐานความปรองดอง
โดยจะเร่งดำเนินการปฏิรูปใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การจัดทำฐานข้อมูลด้านความมั่นคง 2.การปฏิรูประบบงานป้องกันประเทศและปฏิบัติภารกิจอื่นที่ไม่ใช่สงคราม 3.การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย บุคคล เอกสาร และสถานที่สำคัญ โดยเน้นย้ำงานข่าวกรองเพื่อป้องกันภัยก่อการร้าย และ 4.การปฏิรูปดูแลความสงบเรียบร้อย และกิจการตำรวจในการดูแลประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับแผนปฏิรูปตำรวจที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ดำเนินการอยู่
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานถึงโครงการปรับภูมิทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นการสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ โดยระยะเริ่มต้นจะดำเนินการบริเวณระหว่างสะพานพระราม 7 ถึงสะพานพระปิ่นเกล้า มีระยะทางรวม 14 กม. และส่งผลกระทบต่อ 12 ชุมชน 309 ครัวเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้รัฐบาลต้องจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่ ทั้งบ้านเอื้ออาทร รวมถึงแฟลตในพื้นที่ทหาร ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของประชาชนเป็นผู้เลือก
โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณามอบหมายให้นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาติ เป็นหัวหน้าคณะทำงานไทย เข้าชี้แจงกับสหภาพยุโรป (EU) เพื่อให้ข้อมูลการดำเนินการการแก้ปัญหาของไทยในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายต่อสหภาพยุโรป (EU) ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเน้นการแก้ปัญหาที่ฐานราก เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง