ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำร้องของนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับนายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และคณะกรรมการตรวจสอบและเสนอแนะการบริหารสัญญาโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ รวม 7 คน ที่ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ พร้อมทั้งยกคำของดการบังคับคดีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
ทั้งนี้ผู้ร้องทั้งเจ็ดอ้างว่าเป็นบุคคลภายนอกที่อาจได้รับผลกระทบจากการที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษชำระเงินให้กับกิจการร่วมค้า NVPSKG ตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยผู้ร้องทั้งเจ็ดที่ไม่มีโอกาสเข้ามาให้ถ้อยคำในกระบวนการพิจารณาคดีของศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครองสูงสุด ซึ่งศาลรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาดและมีพยานหลักฐานใหม่ อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญผิดพลาด และมีข้อบกพร่องในกระบวนการพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ร้องทั้งเจ็ดจะได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากผลการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ไม่ใช่ผลโดยตรงจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เหตุที่อ้างมาในคำร้องจึงไม่อาจถือว่าผู้ร้องทั้งเจ็ดเป็นบุคคลภายนอกที่มีส่วนได้เสีย หรืออาจถูกกระทบโดยตรงจากผลแห่งคดีที่จะมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีใหม่ กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดให้ศาลปกครองรับไว้พิจารณา ทั้งนี้ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 เมื่อไม่อาจรับคำขอไว้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณาได้จึงไม่จำต้องพิจารณาคำของดการบังคับคดีตามมาตรา 292 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
"จึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ และยกคำของดการบังคับคดีของผู้ร้องทั้งเจ็ด" คำสั่งศาลปกครองกลาง ระบุ