นายกฯ เปิดประชุม G-77 หนุนสมาชิกร่วมมือพัฒนาอย่างยั่งยืน แนะยึดหลักศก.พอเพียง

ข่าวการเมือง Wednesday June 1, 2016 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวต่อที่ประชุมกลุ่ม 77 (G-77) ว่าด้วยการบรรลุวัตถุประสงค์การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SEP in Business: A G-77 Forum on the Implementation of the Sustainable Development Goals ว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญหลังจากการรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ในการเปลี่ยนผ่านจากเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs โดยสิ่งสำคัญคือความร่วมมือ ของกลุ่ม 77 ที่ต้องทำให้เกิดขึ้นทั้งส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาพประชาชน และประชาสังคม เน้นการพัฒนาทางด้านการผลิต การเกษตรอุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม ให้เกิดความเชื่อมโยงในลักษณะของห่วงโซ่คุณค่าเดียวกัน เพื่อทำให้กลุ่ม G-77 มีความเข้มแข็งและมีจุดยืน มีบทบาทในเวทีโลก ซึ่งภาคเอกชนถือว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เพราะ เป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ

ขณะที่ภาครัฐถือเป็นกลไกหลัก ในการผลักดันไปสู่เป้าหมายการพัฒนา ดังนั้นทั้งภาครัฐและเอกชนจึงต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและมีการกำหนดเป้าหมายเดียวกัน คือการพัฒนาที่ยั่งยืนและไม่มุ่งหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้นำเสนอหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ใช้ในการพัฒนาประเทศไทยมากกว่า 40 ปี ซึ่งทุกประเทศสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ พร้อมย้ำว่าความร่วมมือในลักษณะไตรภาคีระหว่างประเทศกำลังพัฒนา ประเทศที่พัฒนาแล้ว และกลุ่มประเทศมหาอำนาจ จะเป็นส่วนช่วยให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ในวิถีแบบฝูงผึ้งที่มีการแบ่งงานกันทำตามถนัด รวมมือกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งต่างจากวิถีของฝูงตั๊กแตนปาทังกาที่มีวิถีชีวิตโดดเดี่ยว เปรียบได้กับการช่วยกันพัฒนา สร้างความยั่งยืนมากกว่าการมีเศรษฐกิจที่ทำลายล้างกัน

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการดำเนินงานของรัฐบาลที่ยังมีการใช้กฎหมายตามมาตรา 44 ว่า เพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ไม่เป็นปกติจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายพิเศษเข้ามาควบคุม แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การหวังผลทางการเมือง โดยคดีความทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและเป็นคดีอาญาซึ่งขณะนี้ไม่มีคดีการเมือง พร้อมยืนยันว่าตนเองจะอยู่แก้ปัญหาของประเทศตามโรดแมพที่ได้วางไว้

สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทยในขณะนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทหารยังมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนในการขับเคลื่อนประเทศ แต่ไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อไปสู้รบกับใคร หรือจับนักการเมือง พร้อมย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นถ้ามีการปล่อยปละละเลยในอนาคตจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งการเข้ามาของตนเองไม่ต้องการใช้อำนาจ แต่ต้องการทำเพื่อประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ