พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงแนวทางดำเนินการ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 61 วรรค 2 ขัดต่อรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่มองหากศาลวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่ส่งผลต่อ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติทั้งฉบับ พร้อมยืนยันรัฐบาลและคสช.ไม่มีเจตนาที่จะล้มการทำประชามติ หรือร่างกฎหมายด้วยเจตนาให้มีเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ
"ศาลรัฐธรรมนูญก็พิจารณามาว่ามันผิดหรือมันถูกมาตรานี้ หรือมันผิดทั้งหมด เพราะฉะนั้นอย่าไปตีรวน ถ้าผิดตรงนี้จะผิดทั้งฉบับนี้จะบอกว่าผมจะล้มเหรอ หรือว่าผมแกล้งเขียนให้มันผิด คิดแบบนี้ก็ไปไม่ได้หมดหรอกประเทศ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมกับย้ำถึงงบประมาณในการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า อยู่ในกรอบวงเงิน 3 พันล้านบาท ไม่ได้มีการใช้งบประมาณถึง 1 หมื่นล้านตามที่มีการกล่าวอ้าง ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม ก็สามารถตั้งเรื่องเสนอขอได้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเสนอขอใช้งบเพิ่มเติม
"จะพูดอะไร ผมไม่ฟัง ผมพูดในหลักการที่ว่าอนุมัติไป 3 พันล้านก็แค่นั้น แต่ผมยังไม่อนุมัติอะไรเพิ่มเติม ไม่ใช่อยู่ดีๆ ส่งเดชเป็นหมื่นล้านใครจะทำ ถ้าเขาบอกว่าเป็นหมื่นล้าน เอาหลักฐานมา" นายกรัฐมนตรี ระบุ
พร้อมเชื่อว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถจัดการการออกเสียงประชามติได้ แต่หากเกิดความขัดแย้งวุ่นวายบานปลาย ก็คงจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
"ถ้าตีกันถึงขั้นเอาระเบิดเอาปืนมายิงกัน ก็ประชามติไม่ได้ก็เหมือนที่ผ่านมา ก็ไปว่ามา จะให้ผมไปหยุดทุกคนตีกันทั้งหมด มันก็ไม่ใช่นะ อยากตีกันเอง ผมก็ต้องหยุดให้ได้ แต่อย่าใช้อาวุธสงครามมายิงใส่กัน ผมไม่รับ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว