มาสเตอร์โพลล์ เผยแกนนำชุมชนส่วนใหญ่ร้อยละ 60.5 ระบุมีความสุขมากกว่าความทุกข์จากการมีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะที่มีแกนนำชุมชนร้อยละ 2.6 ระบุมีความทุกข์มากกว่า และส่วนที่เหลือประมาณ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.9 ระบุมีทั้งสุขและทุกข์พอๆกัน โดยแกนนำชุมชนส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 80 ระบุคิดว่าประเทศไทยควรมี คสช.ต่อไปอีกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
ส่วนแนวคิดของรัฐบาลในการจัดตั้งบริษัทประชารัฐนั้น ความคิดเห็นของตัวอย่างแกนนำชุมกรณีที่มีตัวแทนกลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนบริษัทประชารัฐ พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 50.2 คิดว่าน่าจะมีผลในเชิงบวก ขณะที่ร้อยละ 8.9 ระบุคิดว่าน่าจะมีผลในเชิงลบ และเป็นที่น่าสนใจว่าตัวอย่างมากกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 40.9 ระบุยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลบวกหรือลบ
แกนนำชุมชนส่วนใหญ่ร้อยละ 46.2 ระบุมีความเชื่อมั่นในความจริงใจของกลุ่มทุน/กลุ่มธุรกิจที่เข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทประชารัฐ ขณะที่ร้อยละ 10.4 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 43.4 ระบุไม่แน่ใจว่าจะมีความจริงใจหรือไม่
ขณะที่แกนนำชุมชนร้อยละ 50.5 ระบุมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้กลุ่มทุน/กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัทประชารัฐ ขณะที่ร้อยละ 9.3 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 40.2 ระบุไม่แน่ใจ
นอกจากนี้ แกนนำชุมชนร้อยละ 48.5 ระบุเชื่อมั่นว่าบริษัทประชารัฐนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง พัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก และเป็นบริษัทของประชาชนอย่างแท้จริงได้ ขณะที่ร้อยละ 8.3 ระบุไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 43.2 ระบุไม่แน่ใจ
โดยระยะเวลาที่คิดว่าบริษัทประชารัฐจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้สำเร็จนั้น แกนนำชุมชนมากกว่าครึ่งหนึ่งคือร้อยละ 61.9 ระบุคิดว่าน่าจะใช้เวลามากกว่า 2 ปี ร้อยละ 26.3 ระบุคิดว่าประมาณ 1-2 ปี ร้อยละ 5.0 ระบุคิดว่าไม่เกิน 1 ปี ร้อยละ 6.8 ระบุคิดว่าไม่น่าจะทำได้สำเร็จ
สำหรับความพร้อมในการสนับสนุนการจัดตั้งบริษัทประชารัฐในพื้นที่จังหวัดของตนนั้น แกนนำชุมชนร้อยละ 56.9 ระบุพร้อมที่จะสนับสนุน ร้อยละ 2.5 ระบุไม่พร้อม ขณะที่กว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 40.6 ระบุยังไม่แน่ใจ เพราะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ มาสเตอร์โพลล์ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่อง บริษัทประชารัฐเป็นอย่างไรในใจประชาชน จากแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,102 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3-11 มิถุนายนที่ผ่านมา