พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข่าวรัฐบาลมีความขัดแย้งกันจน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องมีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชุดใหม่ โดยยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองหรือความขัดแย้งใด ๆ ในการทำงานทั้งสิ้น แต่เป็นวิธีบริหารจัดการที่ต้องการผลักดันให้งานทุกอย่างเกิดผลสำเร็จได้ด้วยความรวดเร็ว ลดปัญหาข้อติดขัด ซึ่งกฎหมายปกติไม่สามารถดำเนินการได้
"ท่านนายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลมีระยะเวลาจำกัด แต่มีเรื่องสำคัญ เร่งด่วน ที่ต้องทำอีกมาก ดังนั้น เรื่องใดที่ล่าช้าไม่ทันการณ์อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี จึงจำเป็นต้องมีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการที่มีอยู่ ทำหน้าที่ติดตามกิจกรรมสำคัญและรายงานให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาว่า ควรใช้กฎหมายพิเศษ เช่น ม.44 เข้ามาช่วยเร่งรัดหรือไม่ อย่างไร โดยจะไม่กระทบต่อกฎหมายเดิม”พลตรี สรรเสริญ กล่าว
โดยขณะนี้ทุกกระทรวงทำงานภายใต้คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปที่มีรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลอยู่แล้ว เพียงแต่การทำงานของคณะกรรมการแต่ละชุดจะยึดกฎหมายปกติเป็นหลัก หรือหากจำเป็นต้องแก้ไขเรื่องใดก็ให้เสนอกฎหมายใหม่หรือปรับปรุงกฎหมายเดิม เช่น การออกเป็นพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา หรือกฎกระทรวง ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีขั้นตอนและใช้เวลานาน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยกตัวอย่างปัญหาที่ยังดำเนินการล่าช้า เพราะติดขัดในขั้นตอนของกฎหมาย และยากที่จะทำสำเร็จในช่วงปกติ เช่น ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. การบริหารจัดการน้ำ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งหากได้รับการแก้ไขก็จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว
"รัฐบาลไม่อยากให้สังคมมองการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นเรื่องของการเมืองเท่านั้น แต่ควรคิดว่าจำเป็นอย่างไรที่ต้องทำเช่นนี้ เพื่อให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปที่สัมฤทธิผล หรือช่วยกันคิดว่าทำอะไรแล้วบ้านเมืองไปต่อได้ ด้วยบรรยากาศที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานของการคาดเดาหรือสร้างความขัดแย้ง" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว