พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นาย บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ซึ่งตนเองได้ชี้แจงเรื่องการเตรียมการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ รวมถึงแนวทางการทำงานที่ยังคงเดินหน้าตามโรดแมพที่วางไว้ พร้อมทั้งชี้แจงว่า ขณะนี้ยังมีคนที่ไม่หวังดี ซึ่งอยากเลขาธิการสหประชาชาติได้รับทราบและชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และเตรียมส่งผู้แทนไปชี้แจงทำความเข้าใจกับเลขาธิการยูเอ็นอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เลขาธิการสหประชาชาติได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญของประชาชน ซึ่งตนเองได้ชี้แจงไปว่าขณะนี้ยังพบว่ามีบางพรรคการเมืองไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เปิดช่องทางให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมแล้ว แต่กลับไม่ยอมรับแนวทางดังกล่าว พร้อมกล่าวขอบคุณเลขาฯ ยูเอ็นที่แสดงความเป็นห่วงประเทศไทยมาโดยตลอด และย้ำว่าตนเองพร้อมที่จะชี้แจงทุกเรื่องกับทุกประเทศเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเคลื่อนไหวทางโซเชียลในการจับตาการออกเสียงประชามติของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลังถูกสั่งห้ามเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติว่า ตอนนี้ฝ่ายกฎหมายและ คสช.กำลังดูอยู่ ซึ่งให้ทางฝ่ายกฎหมายได้ดำเนินการไป และงานบางอย่างได้มอบหมายให้ คสช.เป็นผู้ดูแล แม้ว่าตนเองอยู่ในฐานะหัวหน้า คสช.ต้องดูแลในภาพรวม แต่ขอให้มีการสรุปข้อมูลทั้งหมดส่งมาก่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นตามช่องทางต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถให้บางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวจนนำไปสู่ความขัดแย้งได้ และที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยห้ามให้แสดงความเห็นผ่านทางสื่อแต่อย่างใด
"จะเอาอะไรอีก จะให้มาเดินบนถนนเลยเอาหรือไม่ บอกมาสิ ผมจะให้ แล้วคุณรับผิดชอบเองนะ วันนี้พูดในสื่อผมห้ามหรือยัง จะให้ห้ามหรือไม่ จะเอาแค่ไหนอีก แล้วพูดเคยสร้างสรรค์หรือไม่ นั้นเหรอประชาธิปไตย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนเรื่องการติดตามผู้รับผิดชอบเรื่องการจัดซื้อจีที 200 ที่มีคำตัดสินให้บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายมีความผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ซื้อนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คดีนี้ศาลมีคำสั่งให้เยียวยาผู้ซื้อแล้ว ไม่ต้องไปสืบสวนอะไรอีก ส่วนเครื่องจีที 200 ก็ได้สั่งให้เลิกใช้ไปนานแล้ว เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถใช้งานได้อีก ส่วนเรื่องค่าเสียหายอยู่ระหว่างการพิจารณาและสรุปข้อมูล หากมีช่องทางที่สามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการ