พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย เชิญนักการเมืองมาร่วมหารือกันได้ แต่อย่าพูดคุยกันจนผิดกฎหมาย เพราะเข้าใจว่าทุกคนหวังดีต่อประเทศชาติ แต่อย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง หรืออย่าชักนำในเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ เพราะแต่ละเรื่องก็มีคนทำหน้าที่อยู่แล้ว และตนเองไม่รู้สึกแปลกใจที่คุณหญิงสุดารัตน์ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ แต่จะมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรคงต้องไปถามคุณหญิงสุดารัตน์เอง
ส่วนกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศสิงคโปร์นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องไปถาม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่ามีอะไรที่ผิดกฎหมายหรือไม่ หากจะตัดสินอะไรก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่าจะส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยาหรือไม่ เพราะตัวเองสนใจแต่เรื่องกฎหมาย
พล.อ.ประวิตร ยันยันว่า ยังไม่จำเป็นต้องทบทวนคำสั่ง คสช.ที่เปิดโอกาสให้นักการเมืองสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เพราะเป็นเรื่องของศาลที่จะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้เดินทางไปได้หรือไม่ ส่วนความเคลื่อนไหวของนายทักษิณนั้นคงต้องไปถามเจ้าตัวเองว่าต้องการอะไร
สำหรับกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไปร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะทำงานเดินทางไปพบเลขาธิการองค์การสหประชาชาติเพื่อชี้แจงแล้ว
พร้อมมั่นใจว่า กระบวนการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญจะเดินหน้าต่อไป และส่วนตัวต้องการให้ประเทศเดินหน้า ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำงานเหนื่อยทุกวันเพื่อพัฒนาบ้านเมืองและเพื่อประชาชน
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุไม่ขอรับรู้กรณีที่มีข่าวว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย เตรียมนัดหารือกับนักการเมืองในสัปดาห์หน้า ใครจะทำอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย และขออย่าให้ต้องตีความเรื่องของกฎหมาย พร้อมตั้งคำถามกลับว่าที่ผ่านมานักการเมืองไม่เคยคุยกันใช่หรือไม่ ซึ่งหากจะมาอ้างว่าคุยเรื่องบ้านเมืองเพื่อทำข้อเสนอส่งมานั้นคงไม่ได้ ทำไมถึงไม่ใช่วิธีการคุยแบบเงียบๆ แล้วมีข้อเสนอเข้ามา
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีส่งผู้แทนไปชี้แจงสถานการณ์บ้านเมืองต่อเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแล้ว ยูเอ็นได้รับทราบข้อมูลทั้งหมดที่มีการส่งไปทั้งภาพ และรายละเอียดของทุกฝ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับทางยูเอ็นจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งยูเอ็นมีท่าทีที่เข้าใจ พร้อมทั้งยังขอให้รัฐบาลได้เดินหน้าตามโรดแมปไปสู่การเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล แต่อยู่กับคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งตอนนี้ต้องการเพียงแค่เรื่องหลุดจากคดีความ แต่ไม่มีการพูดเรื่องแนวทางบริหารประเทศเพื่อประชาชนเลย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้ประเทศสงบลง ส่วนตนเองจะทำดีหรือไม่ดี ผลงานจะปรากฎเอง ไม่ใช่จะทำให้แล้วเสร็จโดยเร็วในทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องติดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาการทำงานไม่มีการบูรณาการ วันนี้ตนเองจึงต้องเข้ามาแก้ไขปัญหามากมาย และแม้ว่าจะมีอำนาจแต่ก็ไม่เคยใช้ เพราะบางเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ หากใช้อำนาจอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือได้