นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบหนังสือกลับมาแล้วว่าผู้ที่มีอำนาจลงนามในหนังสือบังคับทางปกครอง เพื่อส่งให้นักการเมืองและข้าราชการชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 4 สัญญา ปริมาณ 6.2 ล้านตัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท คือ นายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกรมฯ ได้ทำหนังสือเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาลงนามแล้ว หากนายกรัฐมนตรีเห็นชอบก็สามารถพิจารณาลงนามในหนังสือบังคับทางปกครองได้เลย หรือจะมอบหมายให้ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ลงนาม หรือจะลงนามทั้ง 2 คนก็ได้ แล้วแต่การพิจารณาของนายกรัฐมนตรี
ในขั้นตอนต่อไปจะส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่ต้องชดใช้ทั้ง 6 คน เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายตามที่กระทรวงการคลังคำนวณมา ขณะเดียวกันผู้ที่ต้องชดใช้สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ ส่วนในประเด็นของเรื่องอายุความ 2 ปี และจะครบกำหนดในเดือน ก.พ.60 นั้นไม่มีปัญหา เพราะน่าจะส่งหนังสือบังคับทางปกครองไปยังทั้ง 6 คนได้ก่อนกำหนดแน่นอน เพราะนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งรัดเรื่องนี้อยู่แล้ว
รายงานข่าว ระบุว่า นักการเมืองและข้าราชการ 6 คนที่จะถูกบังคับทางปกครองชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวจีทูจี ประกอบด้วย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์, นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์, พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์, นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ, นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และ นายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ
สำหรับกรณีการเรียกค่าเสียหายการขายจีทูจีมันสำปะหลัง ซึ่งมีลักษณะการดำเนินการแบบเดียวกันกับการขายข้าวจีทูจีนั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างการไต่สวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยังไม่มีการชี้มูลความผิดใคร หากมีการชี้มูลความผิดแล้ว การดำเนินการต่างๆ จะมีขั้นตอนแบบเดียวกับข้าวจีทูจี