นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการทำประชามติของประเทศไทยในสายตานานาประเทศ ว่า ไม่มีประเทศใดแสดงความกังวลต่อเรื่องนี้ เพราะการทำประชามติถือเป็นเรื่องภายในประเทศที่แต่ละประเทศ ต่างมีการทำประชามติกันอยู่แล้วถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งการทำประชามติ ที่มีการทำประชามติเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ระดับชาติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่นานาชาติต่างเข้าใจดีและไม่มีประเทศใดแสดงความกังวลในการทำประชามติของประเทศไทย
สำหรับการทำประชามติในประเทศไทยนั้น เป็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญที่จะถามความเห็นชอบจากประชาชน โดยมีเป้าหมายคือให้ประชาชนตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่าในร่างรัฐธรรมนูญที่ประกอบด้วยมาตราต่าง ๆ ที่บางเรื่องอาจถูกมองข้ามไป แต่ได้เขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ด้วยความจริงจังของผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่จะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าด้วยความเข้มแข็ง มาให้ประชาชนได้ตัดสินใจ ซึ่งหวังว่าประชาชนคงได้มองสิ่งต่าง ๆที่สำคัญในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อวินิจฉัยของแต่ละคนว่าจะมองไปในทิศทางเดียวกันหรือเห็นต่างก็แล้วแต่บุคคลนั้น ๆ จะเลือกตัดสินใจ
เมื่อถามถึงความเป็นห่วงเรื่องการแสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญก่อนทำประชามติของเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) นายดอน กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากการประชุม UN ซึ่ง UN ไม่ได้สนใจต่อประเด็นนี้และไม่มีใครสอบถามในเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะเชื่อว่าทุกประเทศตระหนักดีว่าเรื่องใดที่สหประชาติควรให้ความสนใจ และเรื่องใดที่จะมีผลกระทบหรือผลประโยชน์ต่อประชาชนของประเทศนั้น ๆ
“จริง ๆ แล้ว ไม่มีใครกังวล เรากังวลกันไปเอง อย่างที่บอกไปว่า ทุกประเทศเข้าใจดีว่าการทำประชามติเป็นเรื่องภายในประเทศ จะมีก็แต่คนในบ้านเราที่ไม่เข้าใจ ซึ่งต้องยอมรับว่ามีการบิดเบือนกันมากในประเด็นนี้ แต่เราก็ยืนยันกับ UN ไปตามข้อเท็จจริงและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เขาก็ชื่นชมไทยที่เป็นบ้านเมืองที่มีความสงบสุข มีความเจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจ รวมถึงวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่น่าชื่นชม และผู้แทนหลายคนที่เคยมาประเทศไทยทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดก็ไม่พบว่ามีความวุ่นวายใด ๆ จึงเกิดความสงสัยว่าเหตุใดจึงมีข่าวความไม่สงบในประเทศไทยมาอยู่เนือง ๆ ทั้งที่ความเป็นจริงผู้คนกลับใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข" นายดอน กล่าว