พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีกล่าวในงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2559 ที่ระบุว่า "หากประชามติไม่ผ่าน จะร่างรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง" หลังถูกนำไปขยายผลว่า เป็นเพียงการพูดประชดเท่านั้น ซึ่งหากจะมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก็จะต้องเป็นหน้าที่ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากนี้จะไม่พูดในเรื่องใดๆ ที่นำไปสู่ปัญหาอีก
"ผมพูดให้ฟังต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่ รัฐธรรมนูญใหม่ต้องเขียนด้วยใคร ผมพูดถึงว่า ถ้ามันยุ่งยากกันนัก ซึ่งมันไปไม่ถึงตรงนั้นอยู่แล้ว ก็รู้กันอยู่ ที่ผมพูด ผมพูดประชดคุณ จะหาเรื่องให้ได้ ต่อไปนี้จะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ที่มันเป็นปัญหาจะไม่พูด ถามมาจะตอบเท่าที่ถาม ก็เน่าๆ กันไปอยู่กันแบบนี้" นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบการบิดเบือนเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ไม่ควรไปให้ความสนใจหรือขยายความในเรื่องของรัฐธรรมนูญปลอม แต่ควรสนใจศึกษาเนื้อหาของรัฐธรรมนูญว่าดีหรือไม่ดีอย่างไรมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ ชีวิตส่วนตัวนายกรัฐมนตรีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม และมีเวลาอยู่กับครอบครัว
"จะเปลี่ยนอะไร ผมก็เตรียมไปสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่าวันไหนก็เปลี่ยนผมไม่ได้ ผมก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เป็นแม่ทัพ ไม่เคยต้องไปอะไรกับใคร ก็มีความสุขกับครอบครัวผมก็แค่นั้นเอง" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีอุโมงค์ไฟมูลค่า 39 ล้านบาทนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า คงจะไม่ใช้สั่งตามมาตรา 44 เพื่อปลดผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งคงจะให้กระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัดได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ซึ่งทุกอย่างคงต้องเป็นไปตามขั้นตอน
"หากมีการร้องทุกข์เข้ามา ก็ต้องหาข้อเท็จจริง และหากพบว่าเข้าข่ายการทุจริต อาจส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น เช่น ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ดำเนินการสอบสวนต่อไป" นายกรัฐมนตรี กล่าว