พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมผลักดันโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งนักธุรกิจในพื้นที่ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยใช้อัตลักษณ์ของตนเองเชื่อมต่อกับประเทศโลกมุสลิม ภายใต้แนวคิดสานพลังประชารัฐผ่านการลงทุนขนาดใหญ่ (Big push) เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่
"รัฐบาลจะพัฒนา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขึ้นเป็นเมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน พัฒนา อ.เบตง จ.ยะลา ขึ้นเป็นเมืองของการพัฒนาที่พึ่งตนเองด้านพลังงานแบบยั่งยืน และพัฒนา อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนระหว่างประเทศ โดยทั้ง 3 เมืองจะยึดโยงกันเป็นสามเหลี่ยม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอาณาเขตโดยรอบ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
สำหรับแผนปฏิบัติการที่จะขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 พ.ศ.2560-2562 จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่พิเศษ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ ออกพันธบัตรพัฒนาชุมชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรับปรุงท่าเรือปัตตานี ขยายสถานีรถไฟโคกโพธิ์ ปรับปรุงระบบประปา ไฟฟ้า และการขนส่ง เป็นต้น และระยะที่ 2 พ.ศ.2563-2565 จะเชื่อมโยงการขนส่งจาก 3 จังหวัดไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์
"ท่านนายกฯ สนับสนุนให้ใช้มิติทางเศรษฐกิจช่วยแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โดยวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางลงไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทั้งนี้จะมีการประชุมเพื่อขอความเห็นชอบแผนปฏิบัติการโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน การจัดตั้งคณะทำงานสานพลังประชารัฐ คณะที่ 13 รับผิดชอบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพิจารณาเงื่อนไขพิเศษสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การหักค่าขนส่ง ไฟฟ้า ประปาในการคำนวณภาษี การจูงใจบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานในพื้นที่ ฯลฯ