นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการจัดหาไม้สักเพื่อใช้ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า ขณะนี้ได้ข้อยุติแล้ว โดยทุกอย่างจะเดินหน้าตามที่กำหนดในสัญญา เว้นแต่เกิดข้อขัดข้องจากฝ่ายใดก็ต้องร้องขอมายังรัฐสภาอีกครั้ง
ในวันนี้ได้มีการหารือร่วมกับตัวแทนกลุ่มกิจการร่วมค้าสงบในฐานะผู้ออกแบบ, ตัวแทน บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ในฐานะผู้รับจ้าง, ตัวแทนโครงการกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาบริหารโครงการ และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยทางบริษัทผู้ออกแบบยืนยันว่า มีความจำเป็นต้องใช้ไม้สักเป็นองค์ประกอบการก่อสร้างอาคารรัฐสภา เพื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความโดดเด่นและเอกลักษณ์ความเป็นไทย และได้รับการยืนยันจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แล้วว่า สามารถจัดหาไม้สักจำนวน 5,018 ท่อน มาดำเนินการก่อสร้างได้ โดยจะใช้ไม้สักจากป่าปลูกของ ออป.จะไม่ตัดใหม่จากป่าธรรมชาติเด็ดขาด ขณะที่บริษัทผู้รับจ้างได้แจ้งว่าพร้อมดำเนินการติดตั้งเสาไม้สักในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หาก ออป.สามารถจัดหาเสาไม้สักตามที่กำหนดในสัญญาจ้างได้
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก สามารถทุบอาคารต่างๆ ได้แล้ว แต่ยังมีชุมชนองค์การทอผ้าที่ยังไม่ยอมย้ายออก หากการส่งมอบพื้นที่เรียบร้อยภาระหนักจะหมดไป ส่วนที่ผู้รับเหมาขอขยายระยะเวลาก่อสร้างอีก 600 วันนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้หนังสือจากผู้รับเหมา หากมีการร้องขอต้องประเมินว่ามีเหตุผลอย่างไร
ส่วนที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตที่ปรึกษาสถาบันอาศรมศิลป์ บริษัทผู้ชนะการออกแบบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แสดงความเป็นห่วงอาจจะเสียค่าโง่เรื่องการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ 1,200 ล้านบาทนั้น ยืนยันว่า จะไม่เสียอะไรง่ายๆ จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศ