พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์การออกเสียงประชามติ เพราะมีหน่วยงานที่ดำเนินการในการติดตามอยู่แล้ว และการออกมาเคลื่อนไหวในช่วงนี้มาจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เพราะใกล้ถึงวันลงประชามติ
ส่วนกรณีกระแสข่าวตำรวจออกหมายจับ 5 นักการเมืองในพื้นที่ภาคเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดการออกเสียงประชามติ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนอยู่ หากมีส่วนเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดี
"ก็กำลังสอบอยู่ รอตำรวจ ก็สอบถึงใครจับหมด ผมยังไม่รู้ใครบ้าง ฝ่ายความมั่นคงกำลังทำ ผมไม่รู้จักสักคน เพราะไม่เคยคุยด้วย ถ้าเกี่ยงข้องในหลักฐานต้องถูกดำเนินคดี" นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับกรณีที่มีการฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในหลายพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องตรวจสอบทุกกรณี โดยต้องดูทั้งในส่วนของพยานหลักฐานและเจตนาของการกระทำ ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องต้องมีการดำเนินการคดี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะออกไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่เปิดเผยช่วงเวลาที่จะไปใช้สิทธิเพราะจะส่งผลต่อเรื่องการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ คาดหวังอยากให้ประชาชนมีสติ รู้คิด รู้ธรรม และให้ความสนใจและเรียนรู้ในร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่มีใครชี้นำ แต่ไม่คาดหวังในตัวนักการเมือง แต่คาดหวังกับตนเองให้สามารถแก้ปัญหาและวางอนาคตประเทศให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีบุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะจัดกิจกรรมทาง Facebook Live เปิดให้ประชาชนเข้าไปอวยพรให้บิดาว่า รัฐบาลจะไม่เข้าไปจับตาความเคลื่อนไหวใดๆ แต่อย่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศก็พอ
"ผมจะไปจับตาดูใครได้ วันเกิดก็แล้วแต่เขา ผมห้ามเขาได้ไหมละ และตอนนี้ผมห้ามใครได้บ้าง ห้ามใครออกนอกประเทศได้บ้าง ก็พวกคุณเรียกร้องให้ผมปล่อยให้หมด เพื่อเป็นประชาธิปไตย ก็ไปสิ อยากไปก็ไป อย่าสร้างความเดือดร้อน สร้างปัญหาให้ประเทศไทยก็แล้วกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว