ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร พร้อมข้าราชการอีก 3 ราย เป็นเวลา 3 ปีไม่รอลงอาญา ในคดีครอบครัวชินวัตรเลี่ยงภาษีซื้อหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) ขณะที่สั่งจำคุก ผู้ใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานสมรู้ร่วมคิด
ข้าราชการของกรมสรรพากรทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีตผู้อำนวยการ สำนักกฎหมาย, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการ สำนักกฎหมาย และ นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผู้อำนวยการ สำนักกฎหมาย ซึ่งตกเป็นจำเลยพร้อมกับนางเบญจา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.58 โดยระบุว่า จำเลยที่ 1-4 เป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากรปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อไม่ให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณ เลี่ยงภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าควรรจะเป็น และได้รับประโยชน์ที่มิควรโดยชอบด้วยกฎหมาย
สืบเนื่องจากกรณีที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ซื้อหุ้น SHIN เมื่อปี 49 คนละ 164.6 ล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49.25 บาท ถือได้ว่านายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา เป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941.95 ล้านบาท โดยการกระทำดังกล่าวส่งผลให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และราชการเสียหาย
หลังศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การโอนหุ้นดังกล่าวมีการเอื้อประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจึงมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1-4 คนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วน น.ส.ปราณี จำเลยที่ 5 พิพากษาจำคุก 2 ปี ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้มีการกระทำผิด โดยไม่รอลงอาญา