พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับจากนี้เหลือเวลาอีกเพียง 7 วันเท่านั้น จะถึงวันออกเสียงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ รัฐบาลขอให้พี่น้องประชาชนใช้เวลาที่เหลืออยู่ศึกษารายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญ และขั้นตอนการลงประชามติให้เกิดความชัดเจน และออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด เพราะเป็นโอกาสสำคัญที่คนไทยจะได้แสดงพลังความคิดเห็นของตนเอง เพื่อชี้ชะตาอนาคตประเทศว่าจะเป็นเช่นไร
"พี่น้องประชาชนควรทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองในฐานะเจ้าของสิทธิ อย่าหลงเชื่อนักการเมืองหรือผู้ไม่หวังดีที่คอยบิดเบือนข้อเท็จจริงจนก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เช่น สิทธิการรักษาพยาบาล รวมทั้งยังสามารถฟังความเห็นจากรอบด้านที่มีการถกเถียงกัน แต่ทางที่ดีที่สุดควรสอบถามจากเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองท้องถิ่น ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะไม่ได้จัดส่งร่างรัฐธรรมนูญและสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญให้กับทุกครัวเรือน แต่มีจุลสารการออกเสียงประชามติที่ส่งให้ทุกครัวเรือน และยังนำข้อมูลสาระสำคัญใส่ไว้ในเว็บไซต์กับแอพพลิเคชันฉลาดรู้ รวมถึงตีพิมพ์เผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญในหนังสือพิมพ์รายวันอีกหลายฉบับ หากประชาชนต้องการรู้รายละเอียดก็สามารถเข้าไปดูได้ทุกมาตรา ซึ่งเท่ากับเป็นการกระตุ้นทางอ้อมให้ประชาชนรู้จักแสวงหาข้อมูลข่าวสาร ก่อนก้าวไปสู่การมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้รับรายงานจากหลายพื้นที่ว่าประชาชนมีความตื่นตัวและให้ความสนใจการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.นี้มากขึ้น สอดคล้องกับผลการสำรวจความคิดเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ ที่สะท้อนว่า สถิติของผู้ที่จะออกไปใช้สิทธิเพิ่มขึ้นตามลำดับ
"ท่านนายกฯ กำชับไปยังศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยฯ ประจำจังหวัดให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนลงประชามติ และให้ทุกฝ่ายเตรียมการสำหรับวันออกเสียงให้พร้อม รวมทั้งฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังการกระทำที่ผิดกฎหมายในช่วงนี้ เช่น ไม่เผยแพร่ผลการสำรวจความเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงในระหว่าง 7 วันก่อนวันออกเสียงจนถึงเวลาสิ้นสุดการออกเสียงในวันออกเสียง หรือการทำลายบัญชีรายชื่อฯ เป็นต้น" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว