พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสถานทูต 4 ประเทศออกประกาศเตือนประชาชนของตนที่อาศัยอยู่หรือจะเดินทางมายังประเทศไทยในวันออกเสียงประชามติ 7 ส.ค.นี้ว่า รัฐบาลรู้สึกแปลกใจกับประกาศเตือนดังกล่าว เพราะไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และอาจเป็นการสร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม เกิดความไม่เชื่อมั่นในประเทศไทย
"รัฐบาลขอยืนยัน และให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนคนไทยและต่างประเทศว่า ในวันลงประชามติทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ คงไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดถืออาวุธเดินเข้าไปขู่เข็ญหรือบังคับประชาชนให้เกิดภาพที่ไม่เหมาะสม แต่จะมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อให้การลงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บางประเทศอาจจะคาดการณ์เกินความจริง เพราะวันนี้ประเทศไทยสงบเรียบร้อยและปลอดภัยมากกว่าก่อน 22 พ.ค.57 มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่มีเหตุผลใดที่ต้องตระหนกตกใจ ในทางกลับกัน ประเทศที่ดูสงบเรียบร้อยอาจไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด โดยเห็นได้จากข่าวกราดยิงในที่สาธารณะที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้คนไทยจะมีความเห็นต่าง แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของวิถีประชาธิปไตยตามหลักสากล ดังนั้นเพื่อไม่ให้ประเทศอื่นดูแคลนคนไทย พี่น้องประชาชนเองจึงควรออกมาใช้สิทธิใช้เสียงของตนอย่างตรงไปตรงมาและมีวิจารณญาณ ไม่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย ส่วนหน้าที่ของรัฐบาลคือ การดูแลสวัสดิภาพของประชาชนทุกคน โดยยึดหลักกฎหมาย ซึ่งหลายอย่างเป็นกฎหมายพื้นฐานและถูกบังคับใช้มาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เพิ่งกำหนดขึ้นเพื่อการทำประชามติในวันที่ 7 ส.ค.
"นายกฯ ยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมป ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ เพราะมีขั้นตอนรองรับอยู่แล้ว และขอให้คนไทยออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด เพื่อกำหนดอนาคตประเทศ และยังได้กล่าวถ้อยความสำคัญด้วยว่า อย่าเพิ่งกลัวผีที่ยังมองไม่เห็นตัวในการทำประชามติ แต่ให้กลัวผีที่หลอกหลอนมาก่อนหน้า จึงขอให้คนไทยช่วยกันร่ายคัมภีร์หรือคาถาป้องกันผีในอนาคตให้ได้ คาถาป้องกันผีนี้ คือ การมีความเข้าใจ ร่วมมือ และก้าวเดินไปพร้อมกัน เพื่อก้าวสู่การปฏิรูปประเทศต่อไป" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว