พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ให้มากที่สุด ซึ่งหากผ่านพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมพภายในปี 60 แต่หากไม่ผ่านก็จะมีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้ง พร้อมระบุการลงประชามติครั้งนี้นับเป็นโอกาส อย่าให้โอกาสนี้สร้างประเด็นความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ซึ่งจะเป็นวิกฤติการณ์ทำร้ายประเทศ ขณะเดียวกันได้ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย และพัฒนาประเทศ และขออภัยที่อาจไม่สามารถทำให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพบางอย่างได้อย่างเต็มที่ ตลอด 2 ปีที่คสช.และรัฐบาลเข้ามาดูแลประเทศ
"ผมขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปออกไปใช้สิทธิลงประชามติ ให้ไปถล่มทะลาย ผมไม่ต้องการเท่านั้นเปอร์เซ็นต์ เท่านี้เปอร์เซ็นต์ ไปให้มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย ผมขอร้องท่าน ไปให้เต็มไม่ต้องกลัว แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่แล้วใครก็ตามที่ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย อลหม่าน เกิดการบาดเจ็บสูญเสียหรืออะไรก็แล้วแต่จะลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกอำนาจที่ผมมีอยู่"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในรายการ"คืนความสุขให้คนในชาติ"ผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อช่วงค่ำวานนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประชาชนจะลงมติอย่างใดก็ขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล แต่ขอให้คำนึงถึงบ้านเมือง อนาคตลูกหลานความมีเสถียรภาพของรัฐบาล นึกถึงโรดแมพต่าง ๆ ด้วย อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึกที่มีคนพยายามสร้างภาพกลับไปกลับมากันอยู่ในขณะนี้ และอย่าสับสน ซึ่งเท่าที่ศึกษามาร่างรัฐธรรมนูญมีถึง 279 มาตราซึ่งก็ดีขึ้น และมีจุดมุ่งหมายวัตถุประสงค์หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งอาจจะมีบุคคลหลายฝ่ายที่พอใจและไม่พอใจ "การลงประชามติเป็นโอกาส อย่าให้โอกาสนี้เป็นประเด็นความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ เป็นวิกฤติการณ์ทำร้ายประเทศ รัฐบาลยอมรับได้ทุกอย่าง และขอให้ทุกท่านยอมรับเช่นเดียวกันว่าจะเกิดอะไรตามมา ถ้าหากผ่านหรือไม่ผ่าน บ้านเมืองของเราจะเดินต่อไปอย่างสงบสุขได้หรือไม่ นี้คือกติกา และถ้า “ผ่าน" ก็จะมีการประกาศใช้ มีการจัดทำกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง แล้วจัดให้มีการเลือกตั้ง ตามโรดแมพที่ผมเคยแถลงหลายครั้งแล้ว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็คือภายในปี 2560 ถ้า “ไม่ผ่าน" เรายังมีความจำเป็นต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ดี จะร่างใหม่ก็ต้องไปเสียเวลากันอีกครั้งหนึ่ง ก็แล้วแต่ท่าน คิดว่าจะได้ดีกว่านี้ก็เอา ไม่อย่างนั้นก็จัดการเลือกตั้งตามปี 60 ไม่ได้ เพราะเป็นโรดแมพจะต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่ให้กระทบกับโรดแมพซึ่งหลายคนจับจ้องตรงนี้ ถ้าตรงนี้ไปไม่ได้ ก็ถึงตรงโน้นไม่ได้ และท้ายสุดก็ต้องกดดันรัฐบาล คสช. อยู่ดี"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คสช.และรัฐบาลก็ได้ประกาศตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนแล้วว่า จำเป็นต้องเข้ามานั้นเพราะว่าบ้านเมืองมีปัญหา และต้องยุติความขัดแย้ง พร้อมทั้งคืนความสุขให้แก่ประชาชน แต่การทำอะไรต่าง ๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่นั้น ยากที่จะทำให้ทุกคนพอใจทั้งหมด แต่ก็เป็นอนาคตที่จะได้สามารถก้าวไปข้างหน้า ทุกคนมีทางเลือก มีโอกาส จึงต้องวางรากฐานเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นที่คั่งค้างมายาวนาน รวมไปถึงการเตรียมการแก้ปัญหาใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นการ“ปฏิรูปประเทศ" ที่จะต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และเป้าหมาย
คสช.และรัฐบาล ต้องขอบคุณที่ 2 ปีมานี้ ประชาชนโดยทั่วไปต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กระตือรือร้นช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย แก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศ ช่วยเป็นหูเป็นตาให้รัฐบาล ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องขออภัย ที่ 2 ปี มานี้อาจทำให้สิทธิเสรีภาพบางอย่างของประชาชน ไม่อาจใช้ได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นที่ต้องการ แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลได้ทำเท่าที่จำเป็น และอยู่ภายใต้กรอบของหลักนิติธรรม ไม่ได้อยากทำอะไรตามอำเภอใจเพื่ออำนาจ เพื่อสร้างความหวาดกลัว หรือปราศจากเหตุผล หรือกลั่นแกล้งผู้ใดเลย
เมื่อผลการออกเสียงประชามติปรากฏชัดเจนไม่ว่าจะเป็นประการใด คสช. และรัฐบาลจะได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้ทราบเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าโดยราบรื่น ประชาชนจะได้คลายกังวลว่าทุกอย่างยังอยู่ใต้การดูแลเป็นปกติเหมือน 2 ปีที่ผ่านมาที่ไว้ใจรัฐบาล และตนเองจะได้ชี้แจงแนวทางดังกล่าวผ่านทางสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง