นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงผลประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญว่า ผลที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนยอมรับให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศ ไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายความขัดแย้งอีก ซึ่งนักการเมืองทุกพรรคก็ต้องมองย้อนกลับไปและทบทวน
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของตนเองยังไม่เปลี่ยน ถึงจะทราบผลการทำประชามติล่วงหน้า แต่จุดยืนที่แสดงเป็นความเห็นที่สุจริตต่อร่างรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อประชาชนตัดสินใจเช่นนี้ตนเองก็ยอมรับ และอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับ ขณะเดียวกันฝ่ายที่ดูแลบ้านเมืองก็คงต้องตระหนักด้วยว่า ประชาชนที่ไปใช้สิทธิยังต่ำกว่าเป้า และแม้ว่าเสียงที่ไม่เห็นชอบจะเป็นเสียงข้างน้อย แต่ผู้มีอำนาจก็ต้องรับฟังด้วย ต้องพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกคนเหล่านี้ด้วย ซึ่งขอให้ทุกฝ่ายยอมรับผลประชามติที่เกิดขึ้น อย่านำไปสู่ความขัดแย้ง และอย่าสร้างเงื่อนไข ขอให้มองไปข้างหน้ามากกว่า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีมีการวิเคราะห์ว่าคะแนนนิยมของพรรคจะลดน้อยลงว่า ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าเรื่องการลงคะแนนประชามติเป็นเรื่องของพรรคหรือกลุ่มการเมือง เพราะประชาชนตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานความต้องการ เนื่องจากในการตัดสินใจลงคะแนนแต่ละครั้งมีปัจจัยเฉพาะ ยืนยันว่าอุดมการณ์ของพรรคยังมีจุดยืนเหมือนเดิม
"ถ้าเราไปสนับสนุนพรรคหรือนักการเมืองที่ไม่สนใจอุดมการณ์ใดๆเลย ส่วนตัวมองว่าอันตรายมากว่า ดังนั้นส่วนตัวจึงเคารพจุดยืนและความเห็นต่าง เพราะเราเองก็ไม่ได้ไปขัดแย้งหรือต่อสู้กับใคร และไม่ได้รณรงค์ใดๆด้วยซ้ำ หากแต่เป็นสิ่งที่เราแสดงไป ถึงแม้ว่าจะทราบผลล่วงหน้า แต่ก็ต้องแสดงจุดยืนเช่นนี้ และเคารพ น้อมรับ การตัดสินใจของประชาชน"
ในส่วนของพรรค คงต้องมองไปข้างถึงปัญหาของประเทศ เศรษฐกิจ ความขัดแย้ง การคอร์รัปชั่น เรื่องปฏิรูป
"การที่ประชาชนเห็นชอบเพราะต้องการให้เรื่องเหล่านี้เดินไปข้างหน้า และนี่คือโจทย์ที่ทางพรรคต้องรับไป ในส่วนที่ กรธ. เตรียมขอความเห็นในการร่างกฎหมายลูกนั้น ก็ต้องรอว่าจะมีการขอความเห็นอย่างไร ซึ่งการร่างกฎหมายลูก ก็จะเป็นไปตามหลักของรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ว่าหลายเรื่องนั้นส่วนตัวยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมก่อนที่จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ อย่างเรื่องโครงสร้างของพรรคเป็นต้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนหลังจากทราบผลประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญแล้วต้องดูว่า คสช. จะอนุญาตให้พรรคประชุมได้หรือไม่ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้เข้ากับคำถามพ่วง รวมถึงการร่างกฎหมายลูกด้วย
"ถือเป็นบทเรียนสำคัญหนึ่ง ผมเชื่อว่าทุกคนจะประคับประครองสถานการณ์ไป และเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่การลงคะแนนจะมีแพ้ชนะ หรือมีอารมณ์ แต่การจะหลุดพ้นจากความขัดแย้งเดิมๆ ต้องมองไปข้างหน้า มองถึงอนาคตร่วมกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว