นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ในการประชุมกรธ.วันพรุ่งนี้ (24 ส.ค.) จะพิจารณาความเห็นและข้อเสนอต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง เพื่อให้เวลาส่งร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกแก้ไขไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญจะได้ไม่ส่งกลับมายัง กรธ.อีกครั้ง ทำให้ต้องเสียเวลาเพิ่มอีก 15 วัน ขอยืนยันว่า กรธ.ต้องการให้ประเทศมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ กรธ.ได้ฟังความเห็นจากทุกฝ่ายที่เข้ามาชี้แจงแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายที่เสนอความเห็น แม้จะแตกต่างไปจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็คิดถึงบ้านเมืองด้วยกันทั้งนั้น แต่เป็นหน้าที่ของ กรธ.ที่ต้องดูว่าคำถามพ่วงนั้นควรจะมีขอบเขตมากน้อยแค่ไหน และถ้าหากดูตามเนื้อหาของคำถามพ่วงนั้นเขียนหลักการว่าไม่เกินกว่าวาระแรก 5 ปี กรธ.ก็เข้าใจว่าคงจะไม่เกินกว่านั้น และคงไม่ไปกระทบบทหลักด้วย
ส่วนกรณีการวางกรอบปรับแก้บทบัญญัติให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงที่ต้องไม่กระทบกับบทหลักจะมีขอบเขตอย่างไร นายอุดม กล่าวว่า ส่วนตัวเข้าใจว่าในสาระของคำถามพ่วงที่กำหนดให้ใช้ใน 5 ปีแรก ต้องดำเนินการให้ไม่เกินระยะเวลา 5 ปี ส่วนที่อาจจะกระทบกับบทหลักนั้นอาจมีได้ แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาดังกล่าวด้วย
ส่วนที่มีความเข้าใจว่าคำถามพ่วงนั้นเป็นกระบวนการ 2 ขยัก หรือจะเป็นการโหวตเพื่อหานายกรัฐมนตรีในการประชุมครั้งแรกเลยนั้น นายอุดม กล่าวว่า ยังลงความเห็นไม่ได้ คงต้องรอการตัดสินใจของที่ประชุม กรธ.ก่อน แต่ขอยืนยันว่า กรธ.ไม่ได้คิดเหมือน สนช.อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่มีคำถามพ่วง แต่เมื่อคำถามพ่วงผ่านประชามติมาแล้ว กรธ.ก็ต้องมาดูว่าจะแก้ไขอย่างไร ให้มีความสอดคล้องกัน
การที่ประชาชนลงมติรับคำถามพ่วงเพราะทราบแค่ว่า ส.ว.มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ทราบว่า ส.ว.จะร่วมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีด้วย นายอุดม กล่าวว่า ก็ต้องไปถาม สนช.ด้วย แต่ขอเรียนว่าเรื่องการค้นหาเจตนารมณ์ของประชาชนที่มาลงมตินั้นก็ต้องฟังจากทุกฝ่ายที่ได้นำเสนอความเห็นมา แม้แต่ข้อวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชน